เพลงสดุดีที่ 69
คำวอนขอส่วนตัว

สดด บทนี้เป็นเพลงอ้อนวอนของบุคคลหนึ่งที่กำลังทนทุกข์อย่างสาหัส ผู้ประพันธ์ใช้ภาษาสัญลักษณ์กล่าวถึงอันตรายที่กำลังคุกคามตนอยู่ เช่น การจมลงในโคลน การถูกกระแสน้ำพัดพา และโดยเฉพาะการถูกผู้อื่นทอดทิ้ง แม้กระทั่งพี่น้องก็ไม่ยอมรับเขาเป็นสมาชิกของครอบครัวและของชุมชน เขาถูกเยาะเย้ยและถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ เพราะเขาปฏิบัติศาสนกิจต่อพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ สภาพของผู้ประพันธ์ชวนให้คิดถึงสภาพของประกาศกเยเรมีย์ และของ “ผู้รับใช้พระยาห์เวห์” ใน อสย 53 อย่างไรก็ตาม คำภาวนาของผู้ประพันธ์ยังรวมการขอบพระคุณไว้ด้วย เพราะเขาเชื่อมั่นในพระยุติธรรมและพระเมตตาของพระเจ้า เขาจึงมั่นใจว่าพระองค์จะทรงช่วยเขาให้พ้นอันตราย พันธสัญญาใหม่อ้างข้อความจาก สดด บทนี้หลายครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องพระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า เช่น ข้อ 4 ใน ยน 15:25; ข้อ 21 ใน มก 15:23,36// และ ยน 19:29
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง ตามทำนองเพลง "ดอกลิลี่..."  ของกษัตริย์ดาวิด



1    ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด
        น้ำท่วมขึ้นมาถึงคอแล้ว
2    ข้าพเจ้ากำลังจมลงไปในโคลนลึก
        ไม่มีพื้นที่มั่นให้ยืนได้เลย
    ข้าพเจ้าจมลงไปในน้ำลึก
        กระแสน้ำกำลังพัดท่วมข้าพเจ้า
3    ข้าพเจ้าร้องจนหมดกำลัง คอแหบแห้ง
        ข้าพเจ้าคอยมองหาพระเจ้าจนนัยน์ตาฝ้าฟาง
4    ผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าโดยไร้เหตุผล
        มีจำนวนมากยิ่งกว่าเส้นผมบนศีรษะของข้าพเจ้า
    ศัตรูที่พยายามทำลายข้าพเจ้านั้นทรงอำนาจ
        เป็นศัตรูที่พูดเท็จ
    ข้าพเจ้าจะต้องคืนสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ฉกชิงมาด้วยหรือ
5    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่าข้าพเจ้าโง่เขลาเพียงใด
        ความผิดของข้าพเจ้าไม่อาจซ่อนจากพระองค์ได้
6    ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์จอมจักรวาล
        ผู้ที่วางใจในพระองค์ไม่ควรต้องอับอายเพราะข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล
        ผู้ที่แสวงหาพระองค์ไม่ควรจะอับอายเพราะข้าพเจ้า
7    ข้าพเจ้าทนรับการสบประมาทเพื่อพระองค์
        รู้สึกอับอายจนไม่กล้ามองหน้าใคร
8    กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับบรรดาพี่น้อง
        เป็นคนต่างถิ่นสำหรับบรรดาบุตรของมารดาข้าพเจ้า
9    เพราะความรักที่ข้าพเจ้ามีต่อบ้านของพระองค์เป็นเสมือนไฟที่เผาผลาญข้าพเจ้า
       คำสบประมาทที่เขามุ่งใส่ร้ายพระองค์ตกอยู่เหนือข้าพเจ้า
10    ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารจนหมดกำลัง
        กลับได้รับแต่การสบประมาท
11    ข้าพเจ้าสวมผ้ากระสอบเป็นการไว้ทุกข์
        แต่กลับเป็นเป้าให้เขาเย้ยหยัน
12    ถูกผู้นั่งที่ประตูเมืองนินทา
        เป็นเรื่องน่าขันในบทเพลงของคนขี้เมา
13    ดังนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานภาวนาต่อพระองค์ในยามที่ทรงโปรดปราน
        ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงตอบข้าพเจ้า
            ด้วยความรักมั่นคงยิ่งใหญ่ของพระองค์
        เพราะพระองค์ทรงช่วยให้รอดพ้นอย่างสม่ำเสมอ
14    โปรดทรงดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากโคลนตม
        อย่าทรงปล่อยข้าพเจ้าให้จมลงไป
    โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากผู้เกลียดชังข้าพเจ้า
        และจากสายน้ำลึก
15    ขออย่าให้กระแสน้ำพัดท่วมข้าพเจ้า
        อย่าให้น้ำลึกกลืนข้าพเจ้าไป
        อย่าให้แดนมรณะอ้าปากงับข้าพเจ้าไว้เลย
16    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงตอบข้าพเจ้าเถิด
        เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นประเสริฐยิ่ง
    พระกรุณาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
        โปรดผินพระพักตร์มาหาข้าพเจ้าเถิด
17    โปรดอย่าทรงเมินพระพักตร์ไปเสียจากผู้รับใช้ของพระองค์
        โปรดทรงตอบข้าพเจ้าโดยเร็วด้วยเถิด
        เพราะข้าพเจ้ากำลังทุกข์ร้อน
18    โปรดเสด็จมาอยู่ใกล้ข้าพเจ้า โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
        โปรดทรงไถ่กู้ข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรู
19    เพราะพระองค์ทรงทราบดีว่าข้าพเจ้าถูกสบประมาท
        ต้องอับอาย เสียศักดิ์ศรี
        พระองค์ทรงรู้จักผู้เบียดเบียนข้าพเจ้าทุกคน
20    คำสบประมาททำให้ใจข้าพเจ้าแตกสลายจนหมดกำลัง
        ข้าพเจ้าหวังจะได้รับความเห็นใจ แต่ก็ไร้ประโยชน์
        หวังจะได้มีผู้ปลอบใจ แต่ก็มิได้พบแม้แต่คนเดียว
21    เขาใส่ยาพิษในอาหารของข้าพเจ้า
        ข้าพเจ้ากระหายน้ำ เขาก็ส่งน้ำองุ่นเปรี้ยวมาให้ดื่ม
22    ขอให้โต๊ะอาหารของเขาเป็นเหมือนกับดัก
        ขอให้งานเลี้ยงของเขาเป็นเหมือนบ่วงแร้ว
23    ขอให้สายตาของเขาฝ้าฟางจนมองอะไรไม่เห็น
        ขอให้หลังของเขาโค้งงออยู่ตลอดไป
24    ขอพระองค์ทรงหลั่งพระพิโรธลงเหนือเขา
       ขอให้ความร้อนของพระพิโรธเป็นเสมือนไฟเผาผลาญเขา
25    ขอให้ค่ายของเขาถูกทิ้งร้าง
        อย่าให้มีใครมาอาศัยอยู่ในกระโจมของเขาเลย
26    เพราะเขาได้เบียดเบียนผู้ที่พระองค์ทรงลงทัณฑ์ไว้แล้ว
         เขาป่าวประกาศความเจ็บปวดของผู้ที่พระองค์ทรงตีให้บาดเจ็บ
27    ขอพระองค์ทรงกล่าวโทษเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
        ขออย่าให้เขาได้รับความรอดพ้นที่พระองค์ประทานให้
28    ขอทรงลบชื่อของเขาจากทะเบียนแห่งชีวิต
        อย่าให้ชื่อของเขาบันทึกไว้พร้อมกับผู้ชอบธรรม
29    แต่ข้าพเจ้าเป็นผู้ขัดสนและมีทุกข์
        ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ความรอดพ้นที่พระองค์ประทานปกป้องข้าพเจ้า
30    แล้วข้าพเจ้าจะขับร้องสรรเสริญพระนามพระเจ้า
        จะประกาศความยิ่งใหญ่และจะขอบพระคุณพระองค์
31    เพราะการกระทำเช่นนี้จะเป็นที่พอพระทัยพระยาห์เวห์ยิ่งกว่าการถวายโคเพศผู้
        หรือถวายลูกโคที่เขาและกีบเพิ่งงอก
32    ท่านทั้งหลายผู้ถ่อมตน จงเห็นและยินดีเถิด
        ท่านทั้งหลายที่แสวงหาพระเจ้า จงมีกำลังใจขึ้นเถิด
33    เพราะพระยาห์เวห์ทรงฟังคนยากจน
        พระองค์ไม่ทรงเมินเฉยผู้ถูกจองจำ
34    ขอท้องฟ้าและแผ่นดิน ขอทะเลและทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในทะเล
        จงโห่ร้องสรรเสริญพระองค์เถิด
35    เพราะพระเจ้าทรงช่วยศิโยนให้รอดพ้น
        และทรงสร้างนครทั้งหลายในแคว้นยูดาห์ขึ้นใหม่
        ผู้ที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นจะได้รับแผ่นดินกลับมาเป็นของตน
36    ลูกหลานของผู้รับใช้พระองค์จะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก
        ผู้ที่รักพระนามของพระองค์จะได้พำนักอยู่ที่นั่น