แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

เพลงสดุดีที่ 55
คำอธิษฐานภาวนาเมื่อถูกใส่ร้าย

    สดด บทนี้เป็นคำอ้อนวอนที่บรรยายอย่างขมขื่นถึงความหวาดกลัวและความทุกข์ที่ผู้ประพันธ์ได้รับจากศัตรู แต่เหตุที่ทำให้สภาพการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นก็คือแม้เพื่อนสนิทที่สุดของเขาก็ยังทรยศต่อเขาไปเข้ากับศัตรู ใครที่เคยถูกเพื่อนสนิททรยศย่อมเข้าใจความรู้สึกของผู้ประพันธ์ได้เป็นอย่างดี พระเยซูเจ้าก็ทรงเคยถูกทรยศเช่นนั้น เพลงสดุดีบทนี้น่าจะช่วยเราให้พิจารณาดูว่าเรามีความซื่อสัตย์เพียงใดต่อพระคริสตเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่และร่วมงานกับเรา ตัวบทภาษาฮีบรูของ สดด บทนี้มีความสับสนหลายแห่งเราจึงไม่ต้องประหลาดใจถ้าหากว่าคำแปลในสำนวนแปลต่างๆไม่ตรงกัน
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง ใช้เครื่องสายประกอบ บทกวีสอนใจ ของกษัตริย์ดาวิด



1    ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงเงี่ยพระกรรณฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
        โปรดอย่าทรงวางเฉยต่อคำร้องขอของข้าพเจ้า
2    โปรดทรงฟังข้าพเจ้าและทรงตอบข้าพเจ้า
        ข้าพเจ้าคร่ำครวญด้วยความกังวลและวุ่นวายใจ
3    เพราะเสียงตะโกนของศัตรู
        และการเบียดเบียนของคนอธรรม
    เพราะเขาก่อให้เกิดเคราะห์ร้ายแก่ข้าพเจ้า
        และเบียดเบียนข้าพเจ้าด้วยความโกรธ
4    ใจข้าพเจ้าเป็นทุกข์อยู่ภายใน
        ความกลัวตายจู่โจมลงมาเหนือข้าพเจ้า
5    ความกลัวจนตัวสั่นรุกเข้ามาถึงข้าพเจ้า
        ความตระหนกตกใจจับกุมข้าพเจ้าไว้
6    ข้าพเจ้าพูดว่า "ใครจะให้ข้าพเจ้ามีปีกดั่งนกพิราบ
        ข้าพเจ้าจะได้บินออกไปและพบที่พัก
7    ข้าพเจ้าคงจะหนีไปให้ไกล
        จะค้างแรมอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
                            (หยุดสักครู่หนึ่ง)
8    ข้าพเจ้าคงจะรีบหาที่หลบภัย
        ให้พ้นจากลมแรงและพายุร้าย
9    ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงทำให้เขาสับสน
        ทำให้เขาพูดกันไม่เข้าใจ
    ข้าพเจ้าเห็นความรุนแรง
        และการทะเลาะวิวาทในเมือง
10    เขาเหล่านั้นเดินยามอยู่ตามกำแพงเมืองทั้งกลางวันกลางคืน
        ภายในเมืองมีแต่ความชั่วร้ายและความทุกข์
11    ภายในเมืองมีแต่การมุ่งร้าย
        การกดขี่และการคดโกงไม่เคยขาดจากลานสาธารณะ
12    ใช่แล้ว ถ้าศัตรูพูดจาดูหมิ่น
        ข้าพเจ้าก็อาจจะทนรับได้
    ถ้าคู่อริลุกขึ้นมาต่อสู้กับข้าพเจ้า
        ข้าพเจ้าก็อาจจะผละหนีไปจากเขา
13    แต่นี่เป็นท่าน เป็นเพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้า
        เป็นทั้งสหายและมิตรรัก
14    ซึ่งเคยผูกพันกันด้วยมิตรภาพใกล้ชิด
        เดินเคียงกันในขบวนeเข้าไปในบ้านของพระเจ้า
15    ขอให้ความตายลงมาจู่โจมเขา
        ให้เขาลงไปในแดนมรณะทั้งเป็น
            เพราะความชั่วร้ายอยู่ทั้งในบ้านและในใจของเขา
16    ข้าพเจ้าร้องหาพระเจ้า
        พระยาห์เวห์ก็ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
17    ข้าพเจ้าคร่ำครวญและถอนใจในเวลาเย็น เวลาเช้า และเที่ยงวัน
        พระองค์ก็ทรงฟังเสียงของข้าพเจ้า
18    ทรงช่วยข้าพเจ้าให้มีสันติ
        พ้นจากผู้ที่ต่อสู้กับข้าพเจ้า
            เพราะศัตรูของข้าพเจ้าhมีมากมาย
19    พระเจ้าจะทรงฟังข้าพเจ้าและทรงทำให้เขาเหล่านั้นอับอาย
        พระองค์ผู้ทรงครองราชย์ตลอดไป
                            (หยุดสักครู่หนึ่ง)
    เขาเหล่านั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ
        เขาไม่ยำเกรงพระเจ้า
20    ต่างคนต่างทำร้ายเพื่อนของตน
        ไม่ปฏิบัติตามที่สัญญาไว้
21    ปากของเขาพูดไพเราะน่าฟัง
        แต่ใจของเขากำลังเตรียมสงคราม
    คำพูดของเขานุ่มนวลเหมือนชโลมด้วยน้ำมัน
        แต่ก็คมยิ่งกว่าดาบ
22    จงปลดเปลื้องความสาละวนของท่านถวายพระยาห์เวห์
        แล้วพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน
            จะไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ชอบธรรมต้องสะดุดล้มเลย
23    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์จะทรงผลักเขาเหล่านั้นลงไปในขุมลึก
    คนเหล่านั้นที่กระหายเลือดและหลอกลวง
        จะไม่มีชีวิตอยู่ถึงครึ่งอายุขัยของตนด้วยซ้ำ
        ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์