เพลงสดุดีที่ 44
คำคร่ำครวญของประชากรอิสราเอล


สดด บทนี้เป็นคำอ้อนวอนส่วนรวมที่ประชากรอิสราเอลทูลพระเจ้า ให้ทรงระลึกถึงชัยชนะที่พระองค์เคยประทานให้เขาในอดีต (ข้อ 1-8) แต่บัดนี้พระองค์ทรงทอดทิ้งเขาให้ประสบความปราชัยอย่างน่าอดสู (ข้อ 9-16) เราไม่อาจคาดคะเนได้ว่าความปราชัยที่ สดด บทนี้กล่าวพาดพิงถึงเป็นเหตุการณ์อะไร เพราะในอดีตอิสราเอลเคยประสบความปราชัยหลายต่อหลายครั้ง สดด บทนี้จึงใช้ได้เสมอสำหรับความปราชัยทุกครั้ง ประชากรอาจไม่ได้ลืมพระเจ้าหรือไม่ได้ทำผิดต่อพระองค์ ถึงกระนั้นพระองค์ก็มิได้เสด็จมาช่วยเหลือ เขาไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมพระองค์จึงทรงกระทำเช่นนั้น พันธสัญญาเดิมยกปัญหาเรื่องทำไมคนดีจึงต้องทนทุกข์ขึ้นมาพิจารณาหลายครั้ง ปัญหานี้เป็นปัญหาคาใจมนุษย์อยู่เสมอมา เราคริสตชนรู้ว่าความทุกข์เกิดขึ้นแก่เราได้ ไม่ใช่ "ทั้งๆที่" เรายังซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า แต่ "เพราะ" เราซื่อสัตย์ต่อพระองค์ นักบุญเปาโลจึงใช้ถ้อยคำของข้อ 22 จาก สดด บทนี้ให้กำลังใจบรรดาคริสตชนที่กำลังถูกเบียดเบียนว่า " เพราะเห็นแก่พระองค์ ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงถูกประหารอยู่ตลอดวัน  เขาทำกับข้าพเจ้าทั้งหลายเหมือนกับแกะที่เขานำไปฆ่า"
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง บทกวีสอนใจของลูกหลานโคราห์



1    ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ยินด้วยหูแล้ว
        บรรพบุรุษบอกเล่าแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ถึงกิจการที่พระองค์ทรงกระทำในสมัยของเขา ในโบราณกาล

2    พระองค์ทรงใช้พระหัตถ์ขับไล่ชนชาติอื่นๆออกไป
        เพื่อประทานแผ่นดินให้เขา*
    พระองค์ทรงทำลายประชาชนอื่นๆ
        เพื่อขยายที่อยู่ให้เขา
3    มิใช่ดาบของเขาที่ทำให้เขาเข้าครอบครองแผ่นดิน
        มิใช่ลำแขนของเขาที่ทำให้เขามีชัยชนะ
    แต่เป็นพระหัตถ์ขวา พระกร และแสงสว่างแห่งพระพักตร์
        ที่นำชัยชนะมาให้เขา เพราะพระองค์ทรงรักเขา
4    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์คือพระราชาของข้าพเจ้า
        พระองค์ทรงบัญชาbให้ยาโคบได้ชัยชนะ
5    เดชะพระบารมี ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงขับไล่ศัตรูออกไป
        เดชะพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงเหยียบย่ำผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้

6    เพราะข้าพเจ้าไม่วางใจในคันธนู
        คมดาบของข้าพเจ้าไม่นำชัยชนะมาให้
7    แต่พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นจากศัตรู
        ทรงบันดาลให้ผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าทั้งหลายต้องได้รับความอับอาย
8    ข้าพเจ้าทั้งหลายภูมิใจในพระองค์ทุกวัน
        จะสรรเสริญพระนามของพระองค์ตลอดไป

9    แต่บัดนี้ พระองค์ทรงผลักไสข้าพเจ้าทั้งหลาย และทรงปล่อยให้ต้องอับอาย
        พระองค์ไม่เสด็จออกศึกร่วมกับกองทัพของข้าพเจ้าทั้งหลายอีก
10    ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องถอยร่นยามประจญกับศัตรู
        ให้ผู้ที่เกลียดชังปล้นสะดมข้าพเจ้าทั้งหลาย

11    พระองค์ทรงมอบข้าพเจ้าทั้งหลายให้ศัตรู ดังแกะที่จะถูกนำไปฆ่า
        ทรงทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายกระจัดกระจายไปในหมู่ประชาชาติ
12    ทรงขายประชากรของพระองค์ในราคาถูก
        ไม่ทรงได้กำไรจากการขายนั้นแต่อย่างใด

13    พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเป้าให้เพื่อนบ้านสบประมาท
        เป็นที่เยาะเย้ยและดูถูกของผู้คนรอบข้าง
14    ทรงทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายตกเป็นที่โจษจันของประชาชาติ
        เป็นเหตุให้ชนชาติทั้งหลายสั่นศีรษะ

15    ข้าพเจ้าครุ่นคิดถึงความอับอายของตนตลอดวัน
        รู้สึกอัปยศอย่างมาก
16    เมื่อได้ยินเสียงผู้ที่ดูหมิ่นและสาปแช่ง
        และเห็นศัตรูที่มุ่งจะแก้แค้น

17    ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น แม้ข้าพเจ้าทั้งหลายจะไม่ลืมพระองค์เลย
        ไม่เคยขาดความซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์
18    ใจของข้าพเจ้าทั้งหลายไม่เคยเปลี่ยนไปทางอื่น
        และเท้าของข้าพเจ้าทั้งหลายไม่เคยหลงออกนอกมรรคาของพระองค์
19    แต่พระองค์ยังทรงทำลายข้าพเจ้าทั้งหลายจนเป็นที่อยู่ของหมาใน
        ทรงครอบข้าพเจ้าทั้งหลายไว้ในเงาแห่งความตาย

20    ถ้าข้าพเจ้าทั้งหลายหลงลืมพระนามพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
        และยื่นมือออกไปเคารพพระต่างชาติ
21    พระเจ้าจะไม่ทรงทราบเรื่องนี้หรือ
        เมื่อพระองค์ทรงทราบถึงความลี้ลับในใจ?
22    ถูกแล้ว ข้าพเจ้าทั้งหลายถูกประหารอยู่ตลอดวันเพราะพระองค์
        เขาทำกับข้าพเจ้าทั้งหลายเหมือนกับแกะที่ถูกนำไปฆ่า

23    ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตื่นเถิด ไฉนพระองค์จึงยังบรรทมหลับอยู่?
        ขอทรงตื่นเถิด อย่าทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดไปเลย
24    เหตุใดพระองค์จึงทรงเบือนพระพักตร์ไปทางอื่น
        ไม่เอาพระทัยใส่ความทุกข์ยากของข้าพเจ้าทั้งหลายที่กำลังถูกรังควาน?

25    ใช่แล้ว ข้าพเจ้าทั้งหลายถูกกดหลังไว้จนจมผงคลีไปแล้ว
        ต้องนอนคว่ำเหยียดยาวบนพื้นดิน
26    ขอพระองค์ทรงลุกขึ้นเถิด โปรดเสด็จมาช่วยเหลือข้าพเจ้าทั้งหลาย
        โปรดทรงปลดปล่อยข้าพเจ้าทั้งหลายเพราะความรักมั่นคงของพระองค์