แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

เพลงสดุดีที่ 31
คำภาวนาในยามถูกทดลอง


สดด บทนี้เป็นบทเพลงที่แสดงทั้งความวางใจในพระเจ้า เป็นการร้องหาพระองค์ของผู้ที่กำลังทนทุกข์อย่างหมดหวัง ทั้งยังเป็นการที่ผู้ภาวนาได้พบความหวัง และขอบพระคุณพระเจ้า ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้มักจะมีผสมผสานกันอยู่ในชีวิตจริงของเราด้วย เราพบข้อความเช่นนี้ใน "คำสารภาพของประกาศกเยเรมีย์"  (ยรม 17:14-18; 20:7-18) พระเยซูเจ้าเมื่อทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนก็ใช้ข้อความจาก สดด บทนี้ (ข้อ 6) ทูลพระบิดาเมื่อทรงมอบชีวิตของพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดาด้วย (ลก 23:46)
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง เพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิด



1    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าลี้ภัยมาพึ่งพระองค์
    ขอพระองค์อย่าทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
    ขอทรงช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นเถิด
    เพราะพระองค์ทรงความเที่ยงธรรม
2    โปรดทรงเอียงพระกรรณมาทางข้าพเจ้า
    ขอทรงปลดปล่อยข้าพเจ้าโดยเร็วเถิด

    พระองค์ทรงเป็นหลักศิลาที่หลบภัยสำหรับข้าพเจ้า
    ทรงเป็นป้อมปราการแข็งแกร่งที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
3    พระองค์ทรงเป็นหลักศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า
    ขอพระองค์ทรงนำและชี้ทางให้ข้าพเจ้าเถิด เพราะทรงซื่อสัตย์ต่อพระนามของพระองค์
4    โปรดทรงดึงข้าพเจ้าออกจากบ่วงแร้วที่บรรดาศัตรูวางดักไว้
    เพราะพระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
5    ข้าพเจ้ามอบจิตใจไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ พระองค์ทรงไถ่กู้ข้าพเจ้า

6    พระองค์ทรงเกลียดผู้นมัสการรูปเคารพที่ไร้ค่า
    แต่ข้าพเจ้าวางใจในพระยาห์เวห์
7    ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในความรักมั่นคงของพระองค์
    เพราะพระองค์ทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยากของข้าพเจ้า
    และทรงรู้ความคับใจของข้าพเจ้า

8    พระองค์ไม่ทรงมอบข้าพเจ้าไว้ในเงื้อมมือของศัตรู
    แต่ทรงเบิกทางที่ปลอดภัยให้ข้าพเจ้าเดิน

9    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงพระกรุณาข้าพเจ้าด้วย
        เพราะข้าพเจ้ากำลังเดือดร้อน
    ความทุกข์ระทมทำให้ตาของข้าพเจ้ามืดบอด
    วิญญาณและร่างกายก็อ่อนกำลังลงด้วย

10    ชีวิตข้าพเจ้าอ่อนล้าด้วยความทุกข์โศก
    แต่ละปีผ่านไปด้วยเสียงคร่ำครวญ
    กำลังก็ถดถอยลงไปเพราะความทุกข์ร้อน
    กระดูกก็ผุกร่อนไปสิ้น

11    ข้าพเจ้าเป็นที่เยาะเย้ยของบรรดาศัตรู
    เป็นที่รังเกียจของเพื่อนบ้าน
    เป็นสิ่งน่ากลัวต่อผู้คุ้นเคย
    ผู้ที่เห็นข้าพเจ้าตามถนนก็หลบหนีไป
12    ข้าพเจ้าถูกลืมเหมือนคนตาย
    ถูกทอดทิ้งเหมือนภาชนะดินเผาที่แตกแล้ว

13    ข้าพเจ้าได้ยินหลายคนใส่ความข้าพเจ้า
    มีความน่าสะพรึงกลัวอยู่รอบด้าน
    เขาคบคิดกันปรักปรำข้าพเจ้า
    วางแผนจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า

14    แต่ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ข้าพเจ้ากล่าวว่า "พระองค์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า"
15    วันเวลาของข้าพเจ้าอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์
    ขอพระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรู
    และจากผู้ที่เบียดเบียนข้าพเจ้าเถิด
16    ขอพระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงลงมาเหนือข้ารับใช้ของพระองค์
    โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเพราะเห็นแก่ความรักมั่นคงของพระองค์

17    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์ ขออย่าให้ข้าพเจ้าต้องอับอาย
    ขอให้คนชั่วร้ายได้อับอาย
    ให้เขาถูกโยนลงไปในแดนมรณะเถิด
18    โปรดทรงปิดปากของคนพูดเท็จ
    เขาหยิ่งยโสและดูถูกผู้อื่น
    พูดจาก้าวร้าวต่อผู้ชอบธรรม

19    ข้าแต่พระยาห์เวห์พระพรที่พระองค์ทรงสงวนไว้
    สำหรับผู้ยำเกรงพระองค์นั้นใหญ่หลวง
    พระองค์ทรงสะสมพระพรไว้สำหรับผู้ที่ลี้ภัยมาพึ่งพระองค์
    ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ตามนุษย์ทั้งมวล

20    พระองค์ทรงซ่อนเขาไว้เฉพาะพระพักตร์
    ห่างไกลจากการปองร้ายของมนุษย์
    ทรงปกป้องเขาไว้ในกระโจมที่ประทับของพระองค์
    ห่างไกลจากผู้ชอบใส่ร้าย
21    ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงอย่างน่าพิศวงแก่ข้าพเจ้า
    ในนครที่มีกำแพงล้อม
22    ข้าพเจ้าตกใจกลัวคิดว่า
    "พระองค์ทรงละทิ้ง ไม่ทรงเหลียวแลข้าพเจ้าแล้ว"
    แต่พระองค์ทรงฟังเสียงอ้อนวอนของข้าพเจ้า
    เมื่อข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์

23    ท่านทั้งหลายที่จงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์ จงรักพระองค์เถิด
    พระยาห์เวห์ทรงปกป้องผู้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
    แต่ทรงตอบสนองผู้หยิ่งยโสอย่างสาสม
24    ท่านทั้งหลายที่มีความหวังในพระยาห์เวห์
    จงเข้มแข็งและมั่นคงเถิด