19.    ใช้ดนตรี และงานศิลปะ
    การภาวนาเป็นกิจกรรมที่ต้องทำด้วยทั้งตัวตน เราถวายทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็น แด่ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าเป็น เพื่อว่าพระองค์จะทรงทำให้เราเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราควรเป็นอย่างแท้จริง ดังนั้น ของขวัญชิ้นพิเศษที่มอบให้แก่ชีวิตภาวนาได้จึงเป็นโลกแห่งความงาม และความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานศิลปะ บางคนคิดถึงพระเจ้าเมื่อได้ยินดนตรี และบทกวี มากกว่าเมื่อเขาปฏิบัติศาสนกิจ เขาจะรู้สึกซาบซึ้งใจ มีความสุขท่วมล้นวิญญาณ หลังจากฟังมิสซาที่ใช้เพลงของบาคเป็นส่วนประกอบ     ในขณะที่รู้สึกเย็นชามากเมื่อฟังมิสซาปกติ คนเหล่านี้พบว่าบทกวีอันคมกริบของ ยอร์จ เฮอร์เบิร์ต หรือ ที.เอส. เอเลียต พาเขาไปใกล้ชิดพระเจ้า ในขณะที่เขาไม่รู้สึกซาบซึ้งใจเลยเมื่อฟังบทเทศน์ที่ตั้งใจสั่งสอนเขาให้เป็นคนดีมาตลอดชีวิต

    พระเจ้าทรงใช้เสียงต่าง ๆ มากมาย บางคนตอบสนองต่อเสียงของพระคัมภีร์ และคำพยานถึงกิจการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในพระคัมภีร์ บางคนตอบสนองมากกว่าต่อเสียง และรสชาติของศีลศักดิ์สิทธิ์ และโดยเฉพาะพบว่าศีลมหาสนิททำให้เขาสัมผัสกับธรรมล้ำลึกในหัวใจของสิ่งต่าง ๆ สำหรับบางคน เสียงดนตรี และบทกวี เสียงของศิลปะ และประติมากรรมชักนำเขาไปหาพระเจ้า ไม่สำคัญว่าเราเข้ามาทางประตูใด สิ่งที่สำคัญคือเมื่อเราก้าวเข้าประตูมาแล้ว เราควรเริ่มต้นสำรวจให้ทั่วพระราชวังที่เราก้าวเข้ามาภายใน
    แน่นอน บ่อยครั้งที่ดนตรี และงานศิลปะได้รับแรงบันดาลใจจากศาสนา และต้องการสื่อเรื่องของศาสนา ดนตรีของบาคจั่วหัวไว้แทบ
ทุกครั้งว่า Soli Deo gloria – เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าเท่านั้น

คำถาม
    บางครั้งคุณเคยรู้สึกหรือไม่ว่าคุณซาบซึ้งใจกับภาพวาดหนึ่ง หรือเสียงดนตรี คุณเคยพบว่าเสียงดนตรีท่อนหนึ่ง หรือประโยคหนึ่งของบทกวี ทำให้คุณมึนเมา คุณคิดหรือไม่ว่านี่คือประตูที่นำคุณไปหาพระเจ้า

ลองทำดู
•    ลองฟังดนตรีสักบทเพลงหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อวิเคราะห์ หรือเพื่อเสริมความศรัทธา แต่ให้บทเพลงนั้นพูดกับคุณ เหมือนกับส่วนลึกของดนตรีพูดกับส่วนลึกในตัวคุณ หลังจากนั้น ปล่อยให้เสียงดนตรีนั้นก้องอยู่ในความทรงจำของคุณสักครู่หนึ่ง แล้วจงขอบพระคุณพระเจ้า
•    ถ้าคุณมีสถานที่พิเศษสำหรับสวดภาวนา ให้หาหนังสือบทกวีที่พูดกับใจของคุณ และวางไว้ที่นั่น พร้อมกับพระคัมภีร์ และหนังสือเสริมศรัทธาอื่น ๆ อย่ารู้สึกว่าคุณจำเป็นต้องใช้พระคัมภีร์ หรือหนังสือเสริมศรัทธาตลอดเวลา แต่ควรอนุญาตให้ตนเอง
เสพรสชาติของบทกวีที่กล่าวถึงชีวิตมนุษย์ และนำคุณไปสู่ความชื่นชมยินดี
•    นำหนังสือเพลงสวดติดตัวไปภาวนาด้วย และใช้บทเพลงซึ่งบ่อยครั้งเป็นข้อไตร่ตรองอันลึกซึ้งของผู้ประพันธ์เพลง เป็นวัตถุดิบในการรำพึงภาวนา
•    ถ้าคุณมีเลือดศิลปินอยู่ในตัว แม้จะไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ชื่นชอบศิลปะโดยทั่วไปก็ตาม คุณอาจจะอยากใช้การวาดภาพเป็นกิจกรรมรำพึงภาวนาของคุณ ในปัจจุบัน หลักสูตรอบรมการวาดภาพและการภาวนาเป็นที่นิยมมาก เพราะกิจกรรมทั้งสองอย่างนี้ต้องใช้ความตั้งใจ ความอดทน ความชัดเจน การไตร่ตรอง การทดลอง และความเสี่ยง รวมทั้งการมีส่วนร่วมในความคิดสร้างสรรค์ของพระเจ้า
•    ตอบสนองต่อข้อความในพระคัมภีร์ บทภาวนา หรือพิธีนมัสการพระเจ้า ด้วยการปั้นดิน กิจกรรมนี้อาจน่าสนใจมาก และทำให้ซาบซึ้งใจ เมื่อเห็นผลงานที่เกิดจากการสนทนาอย่างเป็นกันเองระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของเรา และดินเหนียวก้อนนั้น เราได้ละทิ้งคำพูดไว้เบื้องหลัง และจินตนาการฝ่ายจิตสามารถสร้างสิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจได้
•    สัญลักษณ์ทางศาสนามีคำอธิบายที่รวบรวมได้เป็นเล่มหนังสือ และมีหนังสือประเภทนี้ให้เลือกซื้อได้ เพราะมีคนจำนวนมากขึ้นในโลกตะวันตกที่ค้นพบความงาม และความลึกของแนวทางชีวิตภายในที่ห้อมล้อมรูปสัญลักษณ์ แต่เรามองผ่านรูปสัญลักษณ์ และไม่ใช่มองที่รูปเหล่านี้ เราไม่มีหน้าที่ตีความ เพียงแต่รอรับความคิดลึกซึ้งที่อาจออกมาจากหัวใจ แต่เราต้องยอมให้ความคิดเหล่านี้แสดงตัว และไม่ใช้สัญชาตญาณของเราวิเคราะห์ สิ่งเดียวที่เราต้องทำคือมองดู และบางที เราอาจคว้าส่วนปลายที่อยู่บนโลกนี้ของธรรมล้ำลึกนิรันดรก็ได้ เพียงแต่ต้องมองดู