ก้าวแรก
1269247835 1369854643เราแทบทุกคนเคยรู้สึกเช่นนี้ในเวลาใดเวลาหนึ่ง บางสิ่งบางอย่างกระตุ้นให้เกิดความคิดขึ้นมาลาง ๆ ว่าชีวิตนี้อาจมีอะไร ๆ มากกว่าที่เราเห็น ความคิดที่ผ่านแวบเข้ามาอย่างรวดเร็วว่า “ฉันสงสัย...จะมีอะไรอื่นหรือเปล่า” บางทีสิ่งที่กระตุ้นให้คิดเช่นนี้อาจเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจ หรือเหตุการณ์น่าเศร้า และเราไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี บางทีเราอาจพบใครบางคนที่ทำให้เราประทับใจได้จริง และเราพบว่าเขาเป็น
คริสตชน หรือเราเข้าไปในอาสนวิหารแห่งหนึ่ง และมีบางสิ่งบางอย่างมาสะกิดจิตใต้สำนึกของเรา บางทีอาจถึงกับทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าเราอยากเอื้อมไปหาบางสิ่งบางอย่าง แต่สิ่งนั้นคืออะไร “อะไรอื่น” ที่ว่านี้ คืออะไร

    ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทั่วไป แต่เรามักไม่สังเกต แล้วความรู้สึกเหล่านี้ก็ถูกฝังอยู่ใต้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่
ไล่ตามมาติด ๆ แต่แรงกระตุ้นเหล่านี้อาจมีความสำคัญมาก ความรู้สึก “อยากเอื้อมไปหาใครบางคนนี้อาจเหมือนกับต้นไม้เล็ก ๆ ที่บอบบางที่พยายามงอกขึ้นมาผ่านรอยแตกบนพื้นคอนกรีต ความรู้สึกนี้อาจเป็นสัญญาณแรกของการผจญภัยฝ่ายจิตครั้งใหญ่ก็ได้
    ดังนั้น ก้าวแรกของการผจญภัยฝ่ายจิตที่ข้าพเจ้าเรียกในที่นี้ว่า “การภาวนา” ก็คือการรับรู้ - และลิ้มรสชาติ - ห้วงเวลาเหล่านี้เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายในตัวเรา อย่าปล่อยให้ไหลท่วมแล้วก็ลืม แต่ให้สังเกตและจับความรู้สึกนั้นไว้อย่างอ่อนโยนสักครู่หนึ่ง การทำได้เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับเวลานี้ คุณเพียงต้องรับรู้ความรู้สึกในห้วงเวลานั้นว่าเป็นอะไร หรืออาจเป็นอะไร อาจเป็นสัญญาณที่ชวนให้คิดถึง
สิ่งอื่น สิ่งที่คุณเห็นเพียงแวบหนึ่งในเวลากลางคืน กลิ่นหอมที่โชยมาตามสายลม หรือคำเชิญจากใครบางคน
    แรงกระตุ้นเหล่านี้ไม่ตื้อ หรือรุกล้ำ แต่อ่อนโยน สงบเงียบ จนถึงกับสุภาพ แต่นั่นอาจเป็นวิธีการทำงานของพระเจ้าก็ได้ เราคริสตชนพูดกันว่าพระองค์ทรงแอบเข้ามาทางประตูหลังของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ในตัวเด็กน้อยที่นอนอยู่ในคอกสัตว์สกปรกในดินแดนที่
ถูกยึดครองแห่งหนึ่ง ไม่มีความก้าวร้าว หรือเสียงเรียกร้องจากเด็กน้อย
ผู้นี้เลย มีแต่คำเชิญชวนให้ดำรงชีวิตอย่างเต็มที่

อีกทางหนึ่ง
    อีกทางหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าอาจมี “อะไรอื่น” ก็คือเมื่อเรากำลังประสบปัญหา อาจเป็นโรคภัยไข้เจ็บ หรืออุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นกับเราหรือบุคคลที่เรารัก อาจเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งสำคัญ หรือความกลัวที่จะต้องขึ้นเครื่องบิน หรืออาจเป็นเพราะในห้องสอบนั้นมีแต่คนที่กำลังคิดถึงพระเจ้า! แต่ไม่ว่าเพราะสาเหตุใด เราพบว่าเรากำลังวิงวอนต่อ
พระเจ้า หรือต่อผู้ยิ่งใหญ่ที่กุมชะตาชีวิตของเรา ทั้งที่บางครั้งเราไม่ได้อยากทำเช่นนั้นเลยก็ตาม หลายครั้งที่เราต่อรองกับพระเจ้าในใจเมื่อดูเหมือนว่าเหตุร้ายกำลังจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุร้ายกลายเป็นดี เรากลับ
ละทิ้งคำสัญญาเหล่านั้นเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ถึงกระนั้น
สิ่งเหล่านี้เตือนเราว่าไม่มีใครพึ่งพาตนเองได้ทุกด้าน เราทุกคนเคยเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เรารู้ว่าเราอยากมีผู้ยิ่งใหญ่บางคนคอยช่วยเหลือเรา แต่เมื่อสถานการณ์คับขันผ่านพ้นไป เราอาจคิดว่านั่นเป็นความปรารถนาแบบเด็ก ๆ แต่เราไม่อาจปฏิเสธพลังของสัญชาตญาณของเรา
ที่อยากเอื้อมไปหาใครบางคน และการเอื้อมออกไปเช่นนี้ก็คือก้าวแรกของการภาวนา

คำถาม

  • เคยมีบางสิ่งบางอย่างหรือไม่ที่ทำให้คุณชะงัก สะกิดใจคุณ ทำให้คุณตั้งคำถามที่ลึกซึ้งกว่าปกติ และคุณจะบรรยายประสบการณ์นั้นอย่างไร – เป็นประสบการณ์ที่ดี หรือแปลก หรือรบกวนจิตใจ หรือทำให้รู้สึกอุ่นใจ หรือเป็นอย่างไร


ลองทำดู

  • ลองสังเกตห้วงเวลาเหล่านี้ที่เกิดขึ้นระหว่างสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้คุณคิดว่าอาจมี “อะไรอื่น” มากกว่าที่ตามองเห็น และถ้าทำได้ ให้ลองจับความรู้สึกนั้นไว้ที่นั่นในเวลานั้น และให้จดจำไว้ และ
  • นำออกมาพิจารณาในช่วงเวลาเงียบ ๆ เพื่อใคร่ครวญว่าความรู้สึกนั้นมีความหมายอะไรสำหรับคุณบ้าง
  • ลองให้ความสนใจมากขึ้นกับความเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้น “ภายใน” ตัวคุณ แทนที่จะสนใจแต่เหตุการณ์ และกิจกรรมภายนอกต่าง ๆ ลองฟังเสียงของอารมณ์และความรู้สึกของคุณ อย่าเพียงแต่ปัดมันให้พ้น ๆ ไป ถ้าเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ต่างจากปกติ หรือแปลก ลองฟังเสียงของอารมณ์เหล่านี้ ชีวิตภายในของเรา
  • อุดมบริบูรณ์ไม่น้อยกว่าชีวิตภายนอก เพียงแต่เรามักไม่สังเกตเท่านั้น

 

ที่มา: หนังสือเรียนรู้การภาวนา... ด้วยภาวนา