ตอน 3 การปรับปรุงแก้ไขพิธีกรรม
21. เพื่อประชากรคริสตชนจะได้รับพระหรรษทานอย่างอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นจากพิธีกรรม พระศาสนจักร มารดาศักดิ์สิทธิ์ มีความประสงค์ที่จะปรับปรุงแก้ไขพิธีกรรมทั่วไปอย่างจริงจัง พิธีกรรมประกอบด้วยส่วนที่พระเจ้าทรงกำหนดจึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และประกอบด้วยส่วนที่เปลี่ยนแปลงได้ ส่วนนี้เมื่อเวลาล่วงไปอาจหรือต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าบังเอิญมีองค์ประกอบที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของพิธีกรรมหรือไม่เหมาะสมอีกต่อไปสอดแทรกเข้ามา
    ในการปรับปรุงแก้ไขนี้ จำเป็นต้องจัดตัวบทและจารีตพิธีใหม่ เพื่อให้แสดงความหมายของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปรากฏชัดยิ่งขึ้น  เพื่อให้ประชากรคริสตชนเข้าใจความหมายได้ง่ายและสมบูรณ์เท่าที่จะเป็นได้ เขาจะได้ร่วมพิธีอย่างแข็งขันเต็มเปี่ยมร่วมกัน
    ดังนั้น สภาสังคายนา จึงกำหนดกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้
    (ก) กฎเกณฑ์ทั่วไป

การจัดการเรื่องพิธีกรรมเป็นสิทธิของผู้ปกครองพระศาสนจักร
22. 1) การออกกฎข้อบังคับเกี่ยวกับพิธีกรรมเป็นอำนาจของพระศาสนจักรเท่านั้น กล่าวคือ เป็นอำนาจของสันตะสำนัก และเป็นอำนาจของพระสังฆราชตามที่กฎหมายกำหนด
     2) โดยอำนาจตามกฎหมาย การออกข้อบังคับสำหรับพิธีกรรมในบางเรื่องที่เจาะจง ยังขึ้นอยู่กับสภาพระสังฆราชที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นตามเขตต่างๆโดยชอบด้วยกฎหมาย
   3)  ดังนั้น  บุคคลอื่น แม้พระสงฆ์ จะเพิ่ม ตัดออก หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งใดในพิธีกรรมตามอำเภอใจตนเองไม่ได้เลย
ธรรมประเพณีที่ดีงามและความก้าวหน้าอันชอบธรรม

23. เพื่อรักษาธรรมประเพณีที่ดีงามไว้ และเพื่อเปิดทางสำหรับความก้าวหน้าอันชอบธรรม จะต้องตรวจสอบแต่ละส่วนของพิธีกรรมที่จะต้องแก้ไขนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนเสมอ  ในด้านเทววิทยา ประวัติศาสตร์ และการอภิบาล นอกจากนั้นจะต้องคำนึงถึงทั้งกฎทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างและเจตนารมณ์ของพิธีกรรม รวมทั้งประสบการณ์ที่ได้มาจากการฟื้นฟูพิธีกรรมที่เพิ่งทำไปแล้ว และจากอนุญาตพิเศษที่สันตะสำนักออกให้แก่หลายๆพื้นที่ ในที่สุด อย่าให้มีการริเริ่มใดๆ นอกจากว่าการริเริ่มเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แท้จริงแน่นอนแก่พระศาสนจักร ในกรณีเช่นนี้ จะต้องเอาใจใส่ให้รูปแบบใหม่ๆนี้พัฒนาขึ้นมาอย่างกลมกลืนจากรูปแบบที่มีอยู่แล้ว
    ยังต้องเอาใจใส่หลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้ มิให้จารีตต่างๆที่ใช้ในเขตใกล้เคียงนั้นแตกต่างกันมากเกินไป

พระคัมภีร์และพิธีกรรม
24. พระคัมภีร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประกอบพิธีกรรม เพราะพระคัมภีร์เป็นที่มาของบทอ่านที่อ่านและอธิบายในบทเทศน์  และของเพลงสดุดีที่ใช้ขับร้อง คำอธิษฐานภาวนา บทวอนขอ และบทเพลงสรรเสริญในพิธีกรรม ล้วนได้รับแรงบันดาลใจและเจตนารมณ์จากพระคัมภีร์ทั้งสิ้น กิจกรรมและสัญลักษณ์ต่างๆในพิธีกรรมก็ได้รับความหมายมาจากพระคัมภีร์ด้วย ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงแก้ไข ความก้าวหน้า และการดัดแปลงพิธีกรรม จำเป็นต้องส่งเสริมให้มีความรักซาบซึ้งและแข็งขันต่อพระคัมภีร์ ซึ่งธรรมประเพณีน่าเคารพของจารีตทั้งตะวันออกและตะวันตกเป็นพยานยืนยันอยู่แล้ว

การตรวจชำระหนังสือพิธีกรรม
25. หนังสือพิธีกรรมจะต้องได้รับการตรวจชำระโดยเร็วที่สุด โดยผู้เชี่ยวชาญ หลังจากปรึกษากับบรรดาพระสังฆราชท้องถิ่นต่างๆ ทั่วโลกแล้ว
    (ข) กฎเกณฑ์จากลักษณะของพิธีกรรมที่เป็นกิจการมีลำดับขั้นและเป็นกิจการของทุกคนที่ร่วมพิธี
26. พิธีกรรมไม่ใช่กิจการของแต่ละคนเป็นส่วนตัว แต่เป็นการเฉลิมฉลองของพระศาสนจักร ซึ่งเป็น “เครื่องหมายแสดงเอกภาพ” กล่าวคือ ประชากรศักดิ์สิทธิ์ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว และอยู่ใต้ปกครองของบรรดาพระสังฆราช
    ดังนั้น พิธีกรรมจึงเป็นกิจกรรมของพระศาสนจักรทั้งหมดที่รวมกันเป็นพระกายทิพย์ แสดงให้เห็นและก่อให้เกิดพระกายนี้ แต่สมาชิกแต่ละคนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้โดยวิธีการ สถานภาพ หน้าที่ และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในรูปแบบต่างๆ
ควรประกอบพิธีกรรมร่วมกันดีกว่าประกอบส่วนตัว
27. ทุกครั้งที่พิธีต่างๆ ตามลักษณะเฉพาะของแต่ละพิธี เรียกร้องให้มีการเฉลิมฉลองส่วนรวม โดยที่สัตบุรุษทุกคนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน จึงต้องย้ำเท่าที่ทำได้ว่า การฉลองแบบนี้ดีกว่าการเฉลิมฉลองเป็นเอกเทศซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนตัว
    ควรปฏิบัติเช่นนี้โดยเฉพาะเมื่อประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ แม้ว่าทุกมิสซาในตัวเองมีลักษณะเป็นส่วนรวมของสังคมอยู่แล้วก็ตาม และควรปฏิบัติเช่นนี้เมื่อโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ด้วย

การประกอบพิธีกรรมอย่างมีศักดิ์ศรี
28. ในพิธีกรรม แต่ละคน ทั้งศาสนบริกรและสัตบุรุษผู้มีหน้าที่ต้องทำเฉพาะหน้าที่นั้นทั้งหมดซึ่งเป็นของตน ตามลักษณะของพิธีและตามกฎของพิธีกรรม
การอบรมให้มีจิตตารมณ์พิธีกรรม
29. ผู้ช่วยพิธี ผู้อ่าน ผู้อธิบายพิธี และคณะนักขับร้อง ต่างมีส่วนในพิธีกรรมอย่างแท้จริง ดังนั้น เขาควรทำหน้าที่ของตนด้วยความเลื่อมใสศรัทธาอย่างจริงใจและด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย สมกับศาสนบริกรที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ และสมกับที่ประชากรของพระเจ้ามีสิทธิที่จะเรียกร้องให้เขาปฏิบัติ
    ดังนั้น บุคคลเหล่านี้ต้องได้รับการอบรมให้มีจิตตารมณ์ของพิธีกรรมตามส่วนที่เหมาะกับตน และเขาต้องได้รับการอบรมให้ทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้องตามกฎและมีระเบียบ

การมีส่วนร่วมพิธีอย่างแข็งขัน
30. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมพิธีกรรมอย่างแข็งขัน ควรเอาใจใส่ให้สัตบุรุษมีส่วนในการร้องรับ การตอบ การขับร้องเพลงสดุดี บทสร้อย บทเพลงสรรเสริญต่างๆ รวมทั้งกิจการอากัปกิริยาและอิริยาบถของร่างกาย ให้ทุกคนเงียบสงบด้วยความเคารพในเวลาที่เหมาะสมด้วย
31. ในการตรวจชำระหนังสือพิธีกรรม ให้เอาใจใส่กวดขันให้มีกฎจารีตกำหนดบทบาทของสัตบุรุษไว้ด้วย

พิธีกรรมและสถานะทางสังคม
32. ในพิธีกรรมต้องไม่มีการให้เกียรติแก่บุคคลใดเป็นพิเศษตามสถานภาพส่วนตัวหรือในสังคม ทั้งในการประกอบพิธีและในการตกแต่งอย่างสง่างามภายนอก เว้นแต่ในกรณีความแตกต่างตามบทบาทหน้าที่ในพิธีกรรมและจากขั้นต่างๆ ของศีลบวช รวมทั้งเกียรติที่กฎพิธีกรรมกำหนดไว้สำหรับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
 (ค.) กฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นตามลักษณะของพิธีกรรมในด้านการอบรมและการอภิบาล
33. แม้พิธีกรรมเป็นการนมัสการพระเดชานุภาพของพระเจ้าโดยเฉพาะ แต่ก็ยังมีคุณค่ายิ่งใหญ่ในการอบรมประชากรผู้มีความเชื่ออีกด้วย ในพิธีกรรมพระเจ้าตรัสกับประชากรของพระองค์ พระคริสตเจ้ายังทรงประกาศข่าวดี ประชากรก็ยังตอบพระเจ้าด้วยการขับร้องและอธิษฐานภาวนา
    ยิ่งกว่านั้น คำอธิษฐานภาวนาที่พระสงฆ์ผู้เป็นประธานของผู้ชุมนุมในฐานะที่เป็นองค์พระคริสตเจ้าทูลถวายแด่พระเจ้านั้น กล่าวในนามของประชากรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด และในนามของผู้ที่ร่วมชุมนุมทุกคน ในที่สุด เครื่องหมายที่แลเห็นได้ซึ่งพิธีกรรมใช้เพื่อหมายถึงสิ่งที่แลเห็นไม่ได้ของพระเจ้านั้น ก็เป็นเครื่องหมายที่พระคริสตเจ้าทรงเลือกหรือพระศาสนจักรเลือก ดังนั้น มิใช่เฉพาะเมื่อเราอ่าน “สิ่งที่เขียนไว้สำหรับสั่งสอนเรา” (รม.15:4) เท่านั้น แต่เมื่อพระศาสนจักรอธิษฐานภาวนา ขับร้อง หรือประกอบกิจกรรม ความเชื่อของบรรดาผู้ที่มาร่วมพิธีก็ได้รับการหล่อเลี้ยง จิตใจของเขาถูกยกขึ้นไปหาพระเจ้าเพื่อถวายคารวกิจฝ่ายจิต และได้รับพระหรรษทานของพระองค์อย่างอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
    ดังนั้น เมื่อจะปรับปรุงแก้ไขพิธีกรรม ให้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทั่วไปดังต่อไปนี้

จารีตพิธีต้องสง่างามและเรียบง่าย
34. จารีตพิธีต้องมีลักษณะสง่างามและเรียบง่าย น่าเลื่อมใสและกะทัดรัด ชัดเจนและไม่ซ้ำซากโดยไร้ประโยชน์ จารีตพิธีจะต้องปรับให้เหมาะกับความเข้าใจของสัตบุรุษ และโดยทั่วไปไม่ต้องการคำอธิบายมากนัก
พระคัมภีร์ การเทศน์อธิบายพระคัมภีร์และการสอนเรื่องพิธีกรรม
35. เพื่อให้ข้อความและจารีตพิธีปรากฏชัดว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
    1) ในการประกอบพิธีกรรมจะต้องรื้อฟื้นให้มีการอ่านพระคัมภีร์มากขึ้น มีความหลากหลายและสอดคล้องกับโอกาสมากยิ่งขึ้น
    2) เนื่องด้วยการเทศน์เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม คำอธิบายพิธีกรรมจึงต้องกำหนดว่าเวลาใดเหมาะที่สุดสำหรับการเทศน์ เท่าที่พิธีกรรมจะอำนวย การเทศน์เป็นศาสนบริการที่จะต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องและซื่อสัตย์ที่สุด นอกจากนั้น เนื้อหาคำเทศน์ส่วนใหญ่จะต้องเอามาจากพระคัมภีร์และพิธีกรรม เป็นการประกาศพระราชกิจน่าพิศวงของพระเจ้าในประวัติศาสตร์แห่งความรอดพ้น คือ พระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้า ซึ่งยังเป็นปัจจุบันและทำงานในตัวเราอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบพิธีกรรม
    3) ควรใช้วิธีการต่างๆให้การอบรมสัตบุรุษเกี่ยวกับพิธีกรรมโดยเฉพาะ และถ้าจำเป็น พระสงฆ์หรือศาสนบริกรที่มีความรู้อาจให้คำอธิบายสั้นๆ ในเวลาที่เหมาะสมระหว่างการประกอบพิธีก็ได้ แต่จะต้องใช้ถ้อยคำที่กำหนดไว้แล้วหรือที่คล้ายกัน
    4) ควรสนับสนุนให้มีวจนพิธีกรรม ในพิธีเตรียมฉลองวันสมโภชในวันธรรมดาบางวันของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าและมหาพรต ในวันอาทิตย์และวันฉลองต่างๆ ควรใช้พิธีนี้โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่มีพระสงฆ์ ในกรณีเช่นนี้ให้สังฆานุกรหรือผู้ได้รับอำนาจจากพระสังฆราชเป็นประธานวจนพิธีกรรม

ภาษาละตินและภาษาท้องถิ่นในพิธีกรรม
36. 1) ให้รักษาการใช้ภาษาละตินไว้ในจารีตละติน เว้นแต่ในกรณีที่ได้รับสิทธิพิเศษเป็นอย่างอื่น
      2) ถึงกระนั้น ทั้งในมิสซา ในการประกอบศีลศักดิ์สิทธิ์ และในส่วนอื่นของพิธีกรรม หลายครั้งการใช้ภาษาท้องถิ่นอาจมีประโยชน์มากแก่ประชาชน ดังนั้น จึงอนุญาตให้ใช้ภาษาท้องถิ่นได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบทอ่านและคำตักเตือน ในบทภาวนาและบทขับร้องบางบท ทั้งนี้ โดยปฏิบัติตามกฎซึ่งจะบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบทต่อไป เป็นเรื่องๆ
      3) ในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่นตามที่กล่าวไว้ในข้อ 22 # 2 ที่จะกำหนดว่าจะใช้ภาษาท้องถิ่นหรือไม่ และจะใช้มากน้อยเพียงไร โดยปรึกษาพระสังฆราชของสังฆมณฑลใกล้เคียงที่ใช้ภาษาเดียวกันถ้าจำเป็น ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบหรือการรับรองจากสันตะสำนักเสียก่อน 
     4) คำแปลตัวบทภาษาละตินเป็นภาษาท้องถิ่นสำหรับใช้ในพิธีกรรม ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้มีอำนาจปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่นตามที่กล่าวไว้แล้วข้างบนนี้

(ง) กฎเกณฑ์สำหรับปรับปรุงพิธีกรรมให้เข้ากับวัฒนธรรมและประเพณีของชนชาติต่างๆ
37. ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับความเชื่อหรือคุณประโยชน์ส่วนรวมของทั้งชุมชน พระศาสนจักรไม่ปรารถนาที่จะวางข้อบังคับให้ปฏิบัติแบบเดียวกันอย่างเคร่งครัด แม้ในเรื่องพิธีกรรม ยิ่งกว่านั้น พระศาสนจักรยังเคารพและส่งเสริมคุณลักษณะและพรสวรรค์เฉพาะของเชื้อชาติและประชากรต่างๆ สิ่งใดในขนบธรรมเนียมของชนชาติเหล่านี้ที่ไม่ยึดติดกับการถือนอกรีตหรือความหลงผิดอย่างแยกไม่ออก พระศาสนจักรก็ยินดีให้คุณค่า และถ้าทำได้ ยังช่วยบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีด้วย ยิ่งกว่านั้น บางครั้งพระศาสนจักรยังรับเข้ามาใช้ในพิธีกรรม ถ้าขนบธรรมเนียมนั้นประสานกลมกลืนกับจิตตารมณ์แท้จริงของพิธีกรรม
38. เมื่อมีการตรวจชำระหนังสือพิธีกรรม อนุญาตให้มีความหลากหลายอันชอบธรรมในการปรับปรุงให้เหมาะกับชุมชนท้องถิ่นและประชากรต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินแดนมิสซัง  โดยยังรักษาเอกภาพแท้จริงของจารีตโรมันไว้ ควรคำนึงถึงหลักการนี้ในการจัดวางโครงสร้างของจารีตพิธีและในการกำหนดคำแนะนำหารประกอบพิธีด้วย
39. ภายในขอบเขตที่มีกำหนดไว้ในหนังสือพิธีกรรมฉบับมาตรฐานให้เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่น ตามที่กล่าวถึงในข้อ 22 # 2 ที่จะกำหนดขอบเขตการปรับปรุงโดยเฉพาะการประกอบศีลศักดิ์สิทธิ์ สิ่งคล้ายศีล การแห่ ภาษาที่ใช้ในพิธีกรรม ดนตรีและศิลปะศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ โดยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์พื้นฐานที่กำหนดไว้ในธรรมนูญนี้ 

การปรับปรุงพิธีกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
40. เนื่องจากในบางสถานที่และบางสถานการณ์ จำเป็นเร่งด่วนกว่าปกติที่จะต้องปรับปรุงพิธีกรรมอย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น จึงขอให้ปฏิบัติดังนี้
1) ผู้มีอำนาจปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่นตามที่กล่าวไว้ข้อ 22 # 2 จะต้องพิจารณาอย่างเอาใจใส่และรอบคอบ ดูว่ามีสิ่งใดในประเพณีและวัฒนธรรมของชนแต่ละชาติ ที่จะนำมาใช้ในคารวกิจต่อพระเจ้าได้บ้าง การปรับปรุงใดๆที่เห็นว่ามีประโยชน์หรือจำเป็นจะต้องเสนอให้สันตะสำนักอนุมัติเห็นชอบก่อน จึงจะใช้ได้
2) เพื่อให้การปรับปรุงนี้ดำเนินไปด้วยความรอบคอบเท่าที่ควร สันตะสำนักจึงให้อำนาจแก่ผู้ปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่น ที่จะอนุญาตและควบคุมการทดลองเบื้องต้นถ้าจำเป็น ในบางกลุ่มที่มีความพร้อม ภายในระยะเวลาที่กำหนดก็ได้
3) เนื่องจากว่า การปรับปรุงกฎพิธีกรรมมักประสบความยุ่งยากพิเศษหลายประการ โดยเฉพาะในดินแดนมิสซัง ดังนั้น จึงต้องมีการปรึกษาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องพิธีกรรม