แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

2. การเทศน์ที่มีการปฏิบัติเป็นแบบอย่าง
    ท่านควรฝึกความกระตือรือร้นที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาศัยการเทศน์เกี่ยวกับพระวาจาของพระเจ้า ตามแบบอย่างที่เราได้มอบให้กับพวกท่าน ประการแรกและสำคัญที่สุดคือ จงสังเกตว่า “ประชาชนต่างพิศวงในคำสั่งสอนของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสอนเขาอย่างผู้มีอำนาจ” (มธ 7:28-29) อำนาจเช่นนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับเรา ไม่ใช่เพียงเพราะเราเป็นพระเมสสิยาห์เท่านั้น แต่เพราะเราฝึกปฏิบัติในสิ่งที่เราเทศน์ ดังที่มีบันทึกเกี่ยวกับเราว่า “เกี่ยวกับทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน” (กจ 1:1)
    ท่านก็มีอำนาจพิเศษที่จะประกาศคำสอนของเรากับบรรดาคริสตชนด้วย ซึ่งเริ่มจากคุณสมบัติที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประสิทธิภาพของพิธีบวชของท่าน อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านต้องการให้การเทศน์ของท่านเกิดผล ท่านจำเป็นต้องสนับสนุนการเทศน์ด้วยอำนาจซึ่งมาจากการเป็นแบบอย่างด้วยชีวิตของท่าน ถ้าท่านไม่ปฏิบัติตามในสิ่งที่ท่านเทศน์ บรรดาคริสตชนจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับบทเทศน์ของท่าน? พวกเขาจะนึกเอาเองว่าท่านไม่ได้เชื่อในบทเทศน์นั้น เนื่องจากท่านมิได้ปรารถนาจะปฏิบัติตามข้อคำสอนที่ท่านเทศน์ ยิ่งกว่านั้น พวกเขาจะคิดว่าท่านเป็นคนหลอกลวง ผู้ซึ่งเปล่งคำพูดที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของหัวใจ
    ช่างเป็นการเทศน์ที่น่าอายอะไรเช่นนั้น คือ เมื่อพระสงฆ์ผู้เย่อหยิ่งเทศน์เรื่องความถ่อมตน, ศาสนบริกรที่ตระหนี่พูดเรื่องความมีใจกว้าง และนักเทศน์ผู้มีราคะสอนเรื่องการควบคุมใจตนเอง เราขอถามศาสนบริกรผู้ชั่วร้ายเหล่านั้นผ่านบรรดาประกาศกของเราว่า “จะมีประโยชน์อะไรที่ท่านจะท่องข้อกำหนดของเรา และใส่พันธสัญญาของเราไว้ในปาก” (สดด 50:16)