แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การมีส่วนร่วมในชีวิตและภารกิจของพระศาสนจักร

ครอบครัวกับธรรมล้ำลึกของพระศาสนจักร
49. ในบรรดาบทบาทขั้นพื้นฐานของครอบครัว     ยังมีอีกอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าหน้าที่ทางพระศาสนจักร  การมอบหน้าที่นี้ก็เหมือนกับการแต่งตั้งครอบครัวให้เป็นผู้ช่วยสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้าขึ้นในกระแสประวัติศาสตร์โดยมีส่วนร่วมในชีวิตและภารกิจของพระศาสนจักร
    เพื่อที่จะเข้าใจรากฐานและเนื้อหาแม้กระทั่งคุณลักษณะของการมีส่วนร่วมดังกล่าวได้อย่างชัดเจนขึ้น  ควรจะพิจารณาให้ละเอียดว่าพระศาสนจักรกับครอบครัวคริสตชนมีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งหลายประการกันอย่างไร  ซึ่งทำให้ครอบครัวเสมือนเป็น “พระศาสนจักรในรูปแบบจำลอง” (Ecclesia  domestica = พระศาสนจักรระดับครอบครัว)   รวมทั้งทำให้ครอบครัวคล้ายกับเป็นภาพทรงชีวิตและเป็นภาพสะท้อนของสภาวะประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงธรรมล้ำลึกของพระศาสนจักรตามรูปแบบเฉพาะของครอบครัว
    ก่อนอื่น  พระศาสนจักรผู้เป็นมารดานี้เองที่ให้กำเนิด   อบรมสั่งสอน และพัฒนาครอบครัว คริสตชนขึ้น  ซึ่งเป็นการปฏิบัติภารกิจแห่งความรอดเพื่อครอบครัวตามที่พระเจ้าได้มอบหมายให้  ในขณะที่พระศาสนจักรประกาศพระวาจาของพระเจ้านั้น  ก็เป็นการเปิดเผยให้ครอบครัวเรียนรู้เอกลักษณ์ของตนให้ทราบว่า  ตนเป็นใครและต้องเป็นใครตามแผนการของพระคริสตเจ้า  ในขณะที่พระศาสนจักรฉลองศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็เป็นการช่วยให้ครอบครัวคริสตชนเปี่ยมไปด้วยพระหรรษทานและมีความแกร่งกล้าขึ้น  เพื่อจะได้เป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่เทิดทูนพระเกียรติมงคลของพระบิดาเจ้า  ในขณะที่พระศาสนจักรประกาศย้ำพระบัญญัติใหม่แห่งความรัก  ก็เป็นการกระตุ้นและชี้นำครอบครัวให้รับใช้ความรัก  เพื่อให้ความรักอันเต็มไปด้วยจิตตารมณ์แห่งการอุทิศตัวและการพลีชีพ  ซึ่งพระเยซูคริสต์ทรงมอบให้แก่มนุษยชาติทั้งมวล  เป็นแม่แบบและเป็นหลักในการดำเนินชีวิตครอบครัว
    ครอบครัวคริสตชนผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับธรรมล้ำลึกของพระศาสนจักรมากจนกระทั่งมีส่วนร่วมตามลักษณะเฉพาะของครอบครัวในภารกิจถ่ายทอดความรอด  ซึ่งเป็นภารกิจของพระศาสนจักรโดยตรง  ผลของศีลสมรสก็คือว่า  สามีภรรยาและพ่อแม่คริสตชน  “รับพระพรพิเศษตามสภาพชีวิตและบทบาทของตนท่ามกลางประชากรของพระ”   เพราะฉะนั้น  เขาไม่เพียงแต่  “รับ”  ความรักของพระคริสต์และได้กลายเป็น  “กลุ่มรวมชีวิตที่รับการไถ่กู้”  แล้วเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วเขายังมีหน้าที่  “มอบ”  ความรักของพระคริสต์นั้นต่อเพื่อนมนุษย์และได้กลายเป็น  “กลุ่มผู้ไถ่กู้คนอื่น”  ด้วย  ดังนั้น  ครอบครัวคริสตชนที่เป็นเสมือนผลและหลักฐานที่แสดงว่า  พระศาสนจักรเจริญพันธุ์แบบเหนือธรรมชาตินั้นก็ยังกลายเป็นทั้งสัญลักษณ์  ประจักษ์พยาน  และเป็นสื่อให้พระศาสนจักรแสดงถึงความเป็นมารดาอีกด้วย