แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

กรณีที่  4 : คู่สมรสที่แยกทางกันและคู่สมรสที่หย่าร้างกัน แต่ไม่ได้แต่งงานใหม่
83. การสมรสที่สมบูรณ์อาจถึงจุดที่ต้องแยกทางกันด้วยความทรมานใจ  และบ่อยครั้งก็แก้ไขไม่ได้เนื่องจากเหตุผลนานัปการ  เช่น  การที่ไม่สามารถเข้าใจกันได้  การที่ไม่สามารถเปิดใจต่อกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในระดับบุคคลต่อบุคคลได้อย่างแท้จริง  ฯลฯ  แน่นอน  ควรจะต้องตระหนักว่า  การแยกทางกันนั้นเป็นวิธีบำบัดจิตใจขั้นสุดท้าย  หลังจากความพยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างเต็มที่นั้นปรากฏว่าไร้ประโยชน์เสียแล้ว
    บ่อยครั้ง  ความรู้สึกว้าเหว่และความเดือดร้อนอีกหลายประการ  เป็นผลที่เกิดขึ้นกับคู่สมรสที่แยกทางกันแล้ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายที่ไม่มีความผิด  ในกรณีเช่นนี้ชุมชนของพระศาสนจักรก็ต้องสนับสนุนคู่สมรสนี้มากกว่าในกรณีอื่นๆ ต้องให้เกียรติแก่เขา ร่วมทุกข์สุขกับเขา เห็นอกเห็นใจเขา  รวมทั้งอยู่ข้างเคียงเขา  เพื่อให้สามารถรักษาความซื่อสัตย์แม้ในสภาพยุ่งยากที่เขาประสบอยู่ก็ตาม  ชุมชนของพระศาสนจักรยังควรเป็นกำลังใจให้เขามุ่งพัฒนาจิตใจแห่งการให้อภัยผู้อื่น  ซึ่งเป็นคุณงามความดีเฉพาะของความรักคริสตชน  ตลอดจนให้เขาพร้อมเสมอที่จะกลับไปดำเนินชีวิตสมรสตามเดิม
    กรณีของคู่สมรสฝ่ายที่ต้องหย่าร้างโดยจำใจนั้นก็คล้ายกับกรณีก่อน  เขาได้ตระหนักดีว่าพันธสัญญาของการสมรสที่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่ยกเลิกมิได้  เขาจึงไม่ยอมปล่อยตัวหาคู่ชีวิตใหม่  ตรงกันข้ามเขาอุตส่าห์ปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อครอบครัว  และรับผิดชอบในบทบาทของคริสตชน  ตัวอย่างแห่งความซื่อสัตย์และความมั่นคงที่สมกับความเป็นคริสตชนนั้นจึงกลายเป็นประจักษ์พยานที่มีคุณค่าพิเศษสำหรับโลกและสำหรับพระศาสนจักร  เพราะฉะนั้นพระศาสนจักรจึงยิ่งต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเขาด้วยความรักอย่างมิหยุดยั้งและเขาให้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ได้โดยไม่มีอุปสรรคแต่อย่างใดเลย