แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

V. วันฉลองปูริม


การตั้งวันฉลองปูริมเป็นทางการ
    20โมรเดคัยบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ และส่งจดหมายไปยังชาวยิวทั้งหลายที่อยู่ในแคว้นต่างๆของกษัตริย์อาหสุเอรัสทั้งใกล้และไกล 21สั่งเขาทั้งหลายให้ถือวันที่สิบสี่และวันที่สิบห้าเดือนอาดาร์เป็นวันฉลองทุกๆปี 22เพราะเป็นวันที่ชาวยิวปลอดภัยจากศัตรู และเป็นเดือนที่ความเศร้าโศกเปลี่ยนเป็นความยินดี และวันไว้ทุกข์เปลี่ยนเป็นวันฉลอง ทุกคนจะต้องยินดีจัดงานเลี้ยงและส่งอาหารเป็นของขวัญให้แก่กัน และให้ทานแก่คนยากจน
    23ชาวยิวจึงปฏิบัติธรรมเนียมที่เริ่มนี้ต่อไปตามที่โมรเดคัยเขียนไปถึงเขา 24ว่า “ฮามาน บุตรของฮัมเมดาธาชาวอากัก ศัตรูของชาวยิวทั้งหลายปองร้ายต่อชาวยิวเพื่อทำลายล้างเขา ฮามานได้จับ “ปูร์” คือ “สลาก” เพื่อกำหนดวันที่จะต้องล้างผลาญและทำลายเขา 25แต่เมื่อพระนางเอสเธอร์ทรงเข้าเฝ้ากษัตริย์ พระองค์รับสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้แผนการมุ่งร้ายของฮามาน ซึ่งเขาคิดทำกับชาวยิวกลับตกลงบนศีรษะของเขาd และรับสั่งให้ฮามานกับบุตรถูกแขวนบนตะแลงแกง 26ดังนั้น วันเหล่านี้จึงได้ชื่อว่า “ปูริม” จากคำว่า “ปูร์” ซึ่งแปลว่า “สลาก”  เพราะข้อความที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น 27ชาวยิวจึงกำหนดเป็นข้อปฏิบัติสำหรับตนเอง สำหรับลูกหลานและทุกคนที่เข้ามารับนับถือลัทธิยิวe ว่าจะต้องฉลองทั้งสองวันนี้อย่างเคร่งครัดทุกปีมิได้ขาด ตามข้อกำหนดและตามเวลาที่เขียนไว้ 28ชาวยิวทุกครอบครัว ทุกสมัย จะต้องระลึกถึงและฉลองวันเหล่านี้ในทุกแคว้นและทุกเมือง  เขาจะต้องไม่เลิกฉลองวันปูริมนี้ และลูกหลานของเขาจะต้องระลึกถึงวันเหล่านี้ตลอดไป”
    29พระราชินีเอสเธอร์ ธิดาของอาบีฮาอิล ทรงพระอักษรอีกฉบับหนึ่ง พร้อมกับจดหมายของโมรเดคัยชาวยิวf เพื่อรับรองวันฉลองปูริมนี้ด้วย 30โมรเดคัยส่งจดหมายทั้งสองฉบับไปถึงชาวยิวซึ่งอยู่ในหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดแคว้นของอาณาจักรของกษัตริย์อาหสุเอรัส อวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุข 31และให้ฉลองวันปูริมเหล่านี้ในเวลากำหนด ตามคำสั่งของโมรเดคัยชาวยิว และตามพระเสาวนีย์ของพระราชินีเอสเธอร์ และตามที่ชาวยิวเคยวางกฎไว้สำหรับตนเองและลูกหลานเกี่ยวกับวันจำศีลอดอาหารและวันไว้ทุกข์g 32พระเสาวนีย์ของพระราชินีเอสเธอร์กำหนดระเบียบการฉลองวันปูริมและบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร


โมรเดคัยได้รับเกียรติ
10    1กษัตริย์อาหสุเอรัสมีรับสั่งให้เก็บภาษีทั่วราชอาณาจักร ทั้งบนแผ่นดินและตามเกาะในทะเล 2หนังสือพงศาวดารของกษัตริย์แห่งมีเดียและเปอร์เซียบันทึกพระราชกิจทั้งหมดซึ่งแสดงพระอำนาจและพระอานุภาพของพระองค์ รวมทั้งเรื่องราวละเอียดกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของโมรเดคัยa ซึ่งพระองค์ทรงเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น 3โมรเดคัยชาวยิวมีตำแหน่งรองจากกษัตริย์อาหสุเอรัส และเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในหมู่ชาวยิว เป็นที่รักของพี่น้องร่วมชาติทุกคน เขาแสวงหาความสุขให้ชนชาติของตน ก่อให้เกิดสันติแก่ลูกหลานอยู่เสมอb
    
(3A)โมรเดคัยพูดว่า “เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นพระราชกิจของพระเจ้า (3B)ข้าพเจ้าจำได้ว่าเคยฝันถึงเรื่องเหล่านี้ และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงตามความฝันทุกประการ (3C)พุน้ำเล็กๆกลายเป็นแม่น้ำ มีแสงสว่าง มีดวงอาทิตย์และน้ำมากมาย แม่น้ำได้แก่พระนางเอสเธอร์ซึ่งกษัตริย์ทรงอภิเษกสมรสและทรงแต่งตั้งขึ้นเป็นพระราชินี (3D)มังกรสองตัวได้แก่ข้าพเจ้าและฮามาน (3E)ชนชาติต่างๆได้แก่ผู้ที่รวมกันจะทำลายชาวยิวให้สิ้นชื่อ (3F)ผู้ที่ร้องทูลพระเจ้าและพระองค์ทรงช่วยให้รอดพ้นคืออิสราเอลประชากรของข้าพเจ้า ใช่แล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดพ้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลดปล่อยพวกเราให้พ้นจากภัยพิบัติเหล่านี้ทั้งหมด พระเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาในหมู่ชนชาติทั้งหลาย (3G)พระองค์จึงทรงจัดให้มีชะตากรรมสองแบบ แบบหนึ่งสำหรับประชากรของพระเจ้า อีกแบบหนึ่งสำหรับชนชาติอื่นๆทั้งหมด (3H)ชะตากรรมทั้งสองแบบนี้เป็นความจริงในวันเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้เพื่อทรงพิพากษาชนชาติทั้งหลาย (3I)พระเจ้าทรงระลึกถึงประชากรของพระองค์ และประกาศความเป็นธรรมแก่ผู้ที่เป็นส่วนมรดกของพระองค์c          (3K)วันเหล่านี้ คือวันที่สิบสี่และสิบห้าของเดือนอาดาร์เป็นวันฉลองที่ชาวอิสราเอลทุกคนจะมาชุมนุมด้วยความยินดีและความสุขเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป”