แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

เมื่อคนทำงาน “หมดไฟ”
218036    คุณกำลังรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับงานตรงหน้าหรือเปล่า รู้สึกล้าแม้ว่าจะเพิ่งพักผ่อนสุดสัปดาห์มาหรือไม่ ถ้าใช่ คุณอาจจะกำลังอยู่ในภาวะหมดไฟ หรือ burn out ก็เป็นได้ การ burn out ส่งผลเสียร้ายแรงต่อตัวพนักงานเองและบริษัท พนักงานไม่มีความสุข บริษัทได้ผลงานเพียงเท่าที่จำเป็น ทั้งที่ควรจะได้งานที่เต็มศักยภาพของพนักงาน
    สาเหตุของการ burn out อาจมาจากตัวพนักงานเอง แต่สาเหตุหลักนั้นพบว่ามาจากที่ทำงาน เช่น ต้องทำงานที่มีความสำคัญเฉพาะตัวงานแต่ไม่ใส่ใจตัวคนที่ทำงาน หรือโดนสั่งให้ทำงานที่ต้องใช้ความพยายามหรือความสามารถสูงกว่ามนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะทำไหว พนักงานย่อมรู้สึกล้า คับข้องใจ และหมดไฟในที่สุด

นักจิตวิทยาได้ระบุปัจจัยหลักๆที่ช่วยลดภาวะหมดไฟไว้ 6 ประการ ได้แก่

1. ภาระงาน - อย่าบีบบังคับตนเองว่าต้องทำให้ได้มากๆเข้าไว้ รับงานให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ คุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นด้วย
“ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน” (มัทธิว11:28)

2. การควบคุม – เมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน จะปล่อยให้ตัวเองลอยไปตามกระแสไม่ได้ ต้องควบคุมตนเองและงานของตนเองให้ดี มีความพยายาม มีความอดทน และมีความรักในงาน
“เราแสดงตนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ ความรู้ ความเพียรอดทน ความใจดี ความช่วยเหลือของพระจิตเจ้า ความรักที่ไม่เสแสร้ง” (2โครินธ์6:6)

3. การให้รางวัล - รางวัลในที่นี้อาจจะเป็นเพียงคำชม ซึ่งบางคนไม่ว่าจะทำงานดีแค่ไหนก็ไม่ได้แม้กระทั่งคำชม เมื่อไม่ได้รับก็จะรู้สึกว่าตนไร้ค่า วิธีแก้คือ เมื่อคุณมั่นใจว่าคุณทำงานนี้ดีแล้ว คุณต้องภาคภูมิใจในงานของคุณ และภาคภูมิใจในตัวคุณเองที่ทำงานชิ้นนี้สำเร็จ ความภูมิใจนี้เองที่เป็นรางวัลให้กับจิตใจอย่างดีเยี่ยม
“อย่าท้อแท้ในการทำความดี เพราะถ้าเราไม่หยุดทำความดี เราก็จะได้เก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลา” (กาลาเทีย6:9)

4. ความรู้สึกโดดเดี่ยว - การทำงานคนเดียว จะทำให้รู้สึกว่าตนไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ กลัวว่าถ้ามีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานแล้ว แทนที่จะช่วยร่วมคิด อาจจะกลายเป็นต้องช่วยเขาทำงาน เสียเวลามากขึ้นไปอีก วิธีแก้คือ หาเพื่อนร่วมงานที่คุณชอบและนับถือสักคน ร่วมชื่นชมผลงานของกันและกัน ปรึกษาหารือกันเล็กๆน้อยๆ แม้จะเสียเวลาไปบ้างแต่ผลตอบแทนที่ได้ย่อมคุ้มค่ากว่าอย่างแน่นอน
“ข้าพเจ้าแสดงให้ท่านเห็นเสมอมาว่า เราต้องทำงานเช่นนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อ่อนแอโดยระลึกถึงพระวาจาของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ว่า การให้ย่อมเป็นสุขมากกว่าการรับ” (กิจการ20:35)

5. ความรู้สึกว่าได้รับความยุติธรรม - ความไม่เป็นธรรมที่แม้จะร้องเรียนไปก็ไร้ประโยชน์ย่อมทำให้หมดไฟ วิธีแก้คือ ลองมองย้อนว่าคุณได้รับการยอมรับนับถือจากเพื่อนร่วมงานมาหรือไม่ หากได้ คุณก็เป็นบุคคลที่มีคุณค่าสำหรับหน่วยงาน แม้คนจะไม่ยุติธรรมถึงขั้นมองข้ามความสามารถของคุณ แต่พระเป็นเจ้ามองเห็นทุกการกระทำของคุณ ขอให้คุณมั่นคงในความพยายามและความสัตย์ซื่อนี้ต่อไป
“พระเจ้าไม่ทรงอยุติธรรมถึงกับจะทรงลืมกิจการที่ท่านได้กระทำ และทรงลืมความรักที่ท่านได้แสดงต่อพระนามของพระองค์ โดยรับใช้บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์และยังคงรับใช้อยู่ต่อไป” (ฮีบรู6:10)

6. การต้องทำในสิ่งที่ขัดกับค่านิยมของตนเอง - งานใดที่คุณรู้สึกว่าผิดศีลธรรม คุณรู้สึกอึดอัดที่จะทำมัน คุณมีสิทธิ์ก้าวหนีออกจากมัน แต่ถ้ามันเป็นงานที่ขัดกับเจตคติ ความชอบทั่วไปเฉยๆ และคุณเลือกไม่ทำงานนั้นไม่ได้ คุณต้องอดทนและทำในส่วนที่คุณพอทำได้เท่านั้น อย่างบังคับตนเองมากเกินไป เมื่องานสำเร็จ คุณจะภาคภูมิและพึงพอใจกับความสำเร็จนี้อย่างมาก
“แต่เราแสดงตนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าในทุกกรณีด้วยความอดทนอย่างมาก ในความทุกข์ยาก ความขัดสน ความคับแค้น” (2โครินธ์6:4)

ขอพระอวยพรให้ทุกท่านมีไฟทำงานด้วยสภาพจิตใจที่แข็งแรง