เศรษฐีคนหนึ่งได้ส่งบุตรชายไปเรียนรู้ “หัวใจของการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข” กับชายชราสูงวัย ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีปรีชาญาณของเมืองนั้น
    ในวันแรกของการเรียนรู้ ชายชราให้เด็กหนุ่มถือช้อนซึ่งเขาหยดน้ำมันลงไปสองหยด และสั่งให้เด็กหนุ่มเดินชมบ้านอันสวยงามของเขา โดยให้เวลาในการเดินครึ่งวัน และสั่งเด็กหนุ่มว่า “เจ้าจงระมัดระวัง อย่าทำน้ำมันหกเป็นอันขาด”

    เมื่อได้ทำตามที่ชายชราสั่งเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มเดินกลับมาหาชายชรา เขาถามเด็กหนุ่มว่า “เป็นอย่างไรบ้างพ่อหนุ่ม บ้านของลุงสวยไหม ลองเล่าให้ลุงฟังซิว่า บ้านของลุงทำจากวัสดุอะไร สวนหย่อมของบ้านสวยไหม อุปกรณ์ตกแต่งบ้านของลุงเป็นอย่างไรบ้าง” เด็กหนุ่มพยายามทบทวนแต่เขานึกไม่ออก เขาจึงตอบชายชราว่า “คุณลุงครับ ผมจำอะไรไม่ได้เลย ผมตั้งใจไม่ให้น้ำมันหกจากช้อน เลยไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้าง”
    ชายชราจึงสั่งให้เด็กหนุ่มเดินชมบ้านของตนอีกครั้งหนึ่ง และสั่งว่าเมื่อเขากลับมาชายชราจะถามเขาด้วยคำถามเดิมอีกครั้งหนึ่ง
    เมื่อเด็กหนุ่มกลับมา เขาได้กล่าวถึงความงดงามของบ้านและส่วนประกอบต่างๆ ให้ชายชราฟังอย่างละเอียด ชายชราชมเด็กหนุ่มว่าเขาเก็บรายละเอียดของบ้านได้ดีมาก และถามเด็กหนุ่มว่า “แล้วทำไมช้อนของเจ้าจึงไม่มีน้ำมันเหลืออยู่เลย” “ผมมัวแต่จดจำรายละเอียดของบ้านของลุง จนลืมระวังน้ำมันในช้อนครับ” เด็กหนุ่มตอบ
    ชายชราจึงสอนเด็กหนุ่มว่า “ทีนี้เจ้ารู้รึยังว่าความลับของความสุขอยู่ตรงไหน ความลับอยู่ที่ว่า เจ้าต้องเห็นความงามของโลกใบนี้ โดยที่ไม่ลืมหยดน้ำมันสองหยดนี้ด้วยเช่นกัน”

ชวนคิดสะกิดใจ
หากช้อนที่ใส่น้ำมันคือหน้าที่ และการชื่นชมบ้านที่สวยงามคือความสุขและความงดงามของชีวิต เป็นไปได้ไหมที่บ่อยครั้งเราสนุกสนานกับชีวิตจนลืมหน้าที่ หรือบางทีเราอาจจะมุ่งมั่นกับหน้าที่จนเราลืมความงดงามของชีวิต จะทำอย่างไรเพื่อเราจะสามารถรักษาสมดุลย์แห่งหน้าที่ที่เราทำ กับความสุขและความงดงามของชีวิตที่เราจะต้องมีเช่นกัน