ความอิจฉาและความโลภ
3คนตระหนี่ไม่ควรจะมีทรัพย์สิน
ทรัพย์สมบัติจำนวนมากมีประโยชน์อะไรสำหรับคนโลภ
4ผู้ที่ยอมอดเพื่อสะสมทรัพย์สมบัติก็สะสมไว้สำหรับผู้อื่น
ผู้อื่นจะใช้ทรัพย์สินของเขาอย่างฟุ่มเฟือย
5ผู้มีใจแคบต่อตนเองจะมีใจกว้างต่อผู้อื่นได้อย่างไร
เขาใช้ทรัพย์สมบัติทำให้ตนมีความสุขยังไม่ได้เลย
6ไม่มีใครใจร้ายเท่ากับคนที่ทรมานตนเอง
เขาต้องรับผลจากความใจร้ายของตน
7ถ้าเขาทำดีบ้าง เขาก็ทำด้วยความบังเอิญ
แต่ในที่สุดความใจร้ายของเขาก็จะปรากฏ
8ผู้อิจฉาริษยาเป็นคนใจร้าย
เขาเบือนหน้าbไม่สนใจชีวิตของผู้อื่น
9คนตระหนี่ไม่พอใจสิ่งที่ตนมี
ความโลภcทำให้ใจของเขาแห้งแล้ง
10คนตระหนี่หวงแม้แต่อาหาร
แม้บนโต๊ะเขาก็มีไม่พอกิน
11ลูกเอ๋ย จงอยู่ดีกินดีเท่าที่ทำได้
อย่าลืมนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตามสมควร
12จงระลึกว่าความตายจะไม่รอช้า
ท่านไม่รู้เวลาที่นัดไว้กับแดนมรณะd
13จงทำดีต่อมิตรสหายก่อนที่ท่านจะตาย
จงมีใจกว้างกับเขาตามความสามารถของท่าน
14อย่ามีใจแคบที่จะให้ความสุขแก่ตนในวันนี้
อย่าปล่อยสิ่งดีที่ท่านปรารถนาให้หลุดมือไป
15ท่านจะต้องละทิ้งทรัพย์สมบัติของท่านให้คนอื่นมิใช่หรือ
ผู้รับมรดกจะแบ่งผลจากความเหน็ดเหนื่อยของท่านมิใช่หรือ
16จงรู้จักให้ รู้จักรับ และรู้จักหาความสุข
เพราะในแดนมรณะจะหาความสุขไม่ได้แล้ว
17เสื้อผ้าเก่าไปฉันใด มนุษย์ทั้งหลายก็แก่ลงฉันนั้น
เป็นกฎตลอดไปว่าทุกคนต้องตาย
18ใบไม้เขียวชอุ่มบนต้นไม้งาม บ้างก็เหี่ยวแห้งร่วงโรย บ้างก็งอกขึ้นมาฉันใด
เชื้อชาติมนุษย์ทั้งหลาย บ้างก็ตาย บ้างก็เกิดมาฉันนั้น
19กิจการทุกอย่างของมนุษย์ต้องทรุดโทรมและสูญหายไป
ผู้ทำกิจการนั้นก็จะต้องจากไปพร้อมกันด้วยe
ความอิจฉาและความโลภ
- รายละเอียด
- หมวดหลัก: พระคัมภีร์สารบบที่สอง
- หมวด: หนังสือบุตรสิรา
- ฮิต: 2488