แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสอนคำสอนในพระศาสนจักร
90    ดังที่กล่าวไว้แล้วว่า  พันธกิจการเผยแผ่ธรรมสู่นานาชาติ เป็นแบบแผนของกิจการทั้งหมดที่เกี่ยวกับการเผยแผ่ธรรมของพระศาสนจักร  ช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปซึ่งถูกเชื่อมต่อกับการเผยแผ่ธรรมนั้น  คือแบบอย่างของกิจกรรมการสอนคำสอน  (อ้างถึง MPD 8, EN 44,ChL 61)  ดังนั้น จึงเป็นการดีที่จะเน้นความสำคัญของเหล่าองค์ประกอบของการเตรียมตัวเป็นคริสตชนนั้น ซึ่งต้องช่วยผลักดันการสอนคำสอนที่ทันสมัยและลักษณะสำคัญของการสอนคำสอน

    อย่างไรก็ตาม โดยอาศัยหลักสมมติฐานทำให้เรากล่าวได้ว่า  มีความแตกต่างในเบื้องต้นระหว่างผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนกับผู้กำลังเรียนคำสอน (ในเอกสาร GCD คำว่า  “ผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชน” และคำว่า  “ผู้กำลังเรียนคำสอน” นี้ใช้บอกให้เห็นถึงความแตกต่างดังกล่าวนี้  ในส่วนของเอกสาร CIC ข้อ 204-206  ให้ข้อสังเกตถึงความแตกต่างแห่งการรวมกับพระศาสนจักรของผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนกับสัตบุรุษคริสตชน)   ระหว่างช่วงการเรียนคำสอนก่อนรับศีลล้างบาป  กับช่วงการเรียนคำสอนหลังรับศีลล้างบาป  อันเป็นช่วงเวลาสำหรับบุคคลทั้งสองพวกตามลำดับ   ช่วงการเรียนคำสอนหลังรับศีลล้างบาปสืบเนื่องมาจากศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นชีวิตคริสตชนของผู้แรกเริ่มชีวิตคริสตชน  “ผู้ซึ่งถูกนำเข้าสู่พระศาสนจักรเรียบร้อยแล้ว  และก็ได้เป็นบุตรของพระเป็นเจ้าโดยอาศัยศีลล้างบาป  พื้นฐานการกลับใจของพวกเขาอยู่ที่ศีลล้างบาปที่ได้รับแล้ว  และพลังแห่งศีลล้างบาปที่พวกเขาต้องพัฒนา (อ้างถึง RCIA 295, CT 44)

91    เมื่อพิจารณาเกี่ยวกับข้อแตกต่างอันสำคัญนี้  เราต้องมาพิจารณาองค์ประกอบบางประการในช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาป  ในฐานะที่เป็นที่มาของแรงบันดาลใจให้เกิดการสอนคำสอนหลังรับศีลล้างบาป
    - ช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปย้ำเตือนพระศาสนจักรทั้งมวลอยู่เสมอๆ ถึงความสำคัญพื้นฐานของหน้าที่การนำเข้าสู่ชีวิต คริสตชน และองค์ประกอบพื้นฐานซึ่งก่อให้เกิดการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน  อันได้แก่  การสอนคำสอน  ศีลล้างบาป  ศีลกำลัง  และศีลมหาสนิท  งานอภิบาลในเรื่องการนำเข้าสู่ชีวิตคริสตชนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพระศาสนจักรเฉพาะถิ่นทุกๆ แห่ง
    - ช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มคริสตชนทั้งกลุ่ม  อันที่จริง “การนำเข้าสู่ชีวิตคริสตชนที่ทำกันในช่วงเวลาเตรียมตัวเป็นคริสตชนนี้ไม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์  และครูคำสอนแต่เพียงลำพังทั้งหมด  แต่ควรให้อยู่ในการดูแลของกลุ่มคริสตชนทั้งกลุ่ม  โดยเฉพาะพ่อแม่อุปถัมภ์”  (อ้างถึง AG 14d)  ด้วยเหตุนี้หน่วยงานที่จัดอบรมบุคคลผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนจึงเพิ่มความรู้สำนึกถึงความเป็นมารดาทางด้านจิตใจของพระศาสนจักร  ซึ่งพระศาสนจักรต้องจัดให้มีการศึกษาเรื่องความเชื่อในทุกรูปแบบ  (ตัวอย่างเช่น  เมโธดีอุส แห่งโอลิมปุส  พูดถึงการทำหน้าที่มารดาของกลุ่มคริสตชน  โดยเขากล่าวว่า เราเอาใจใส่บุคคลที่ยังไม่สมบูรณ์ในชีวิตคริสตชนก็เพื่อให้เขาเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์  และนำเขาให้เกิดใหม่ในฐานะมารดาคนหนึ่ง) (GCS 27,88)
    - ช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปยังเต็มไปด้วยพระธรรมล้ำลึกแห่งปัสกาของพระคริสต์อย่างสมบูรณ์  ด้วยเหตุที่ว่า  “การนำเข้าสู่ชีวิตคริสตชนทุกช่วงต้องเปิดเผยลักษณะธรรมชาติของปัสกาอย่างชัดเจน” (อ้างถึง RCIA 8)  เทศกาลเตรียมฉลองปัสกา อันคือ ช่วงเวลาที่เป็นศูนย์รวมของพิธีกรรมคริสตชน  และชีวิตจิตแห่งศีลล้างบาปในเทศกาลนี้ผลักดันให้เกิดการสอนคำสอนทุกรูปแบบ
    - ช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปยังเป็นจุดเริ่มต้นการนำความเชื่อเข้าสู่วัฒนธรรม  ตามแบบอย่างการรับเอากายของพระบุตรของพระเป็นเจ้า  ผู้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์อย่างชัดแจ้ง  พระศาสนจักรต้อนรับผู้ที่เตรียมเป็นคริสตชนอย่างครบถ้วนพร้อมด้วยความเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมของพวกเขา  กิจกรรมการสอนคำสอนทั้งหมดมีส่วนร่วมทำหน้าที่อันนี้คือ การรวมเอา “บรรดาเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจา” อันแท้จริง ที่ได้ถูกทำให้กระจายไปยังชาติต่างๆ และบุคคลต่างๆ เข้าสู่ความเป็นสากลของพระศาสนจักร (อ้างถึง CT 53)
    - ท้ายสุดนี้  แนวคิดเรื่องช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาป เป็นกระบวนการฝึกอบรมและเป็นระบบการศึกษาที่มีศรัทธาเรื่องความเชื่อ  ถ่ายทอดพลังและลักษณะพิเศษต่างๆ ให้กับการสอนคำสอนหลังรับศีลล้างบาป ซึ่งได้แก่ ความเข้าใจอันดีและสภาพที่สมบูรณ์ของการฝึกอบรม  ลักษณะค่อยเป็นค่อยไปที่มีอยู่ในขั้นต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน  ความเชื่อมโยงกับพิธีกรรมต่างๆ  สัญลักษณ์ต่างๆ  รวมถึงเครื่องหมายในพระคัมภีร์และพิธีกรรมทั้งหลายที่สำคัญ  การอ้างอิงกับกลุ่มคริสตชนอย่างสม่ำเสมอ
    การสอนคำสอนหลังรับศีลล้างบาป ที่ไม่ได้เลียนแบบโครงสร้างของช่วงเวลาเตรียมตัวรับศีลล้างบาปอย่างไม่สร้างสรรค์และสำนึกในสภาพที่เป็นจริงของศีลล้างบาปในบุคคลที่เรียนคำสอน เป็นสิ่งที่ดีเพื่อจะดึงเอาแรงบันดาลใจจาก “ระบบการศึกษาขั้นเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตคริสตชน” (อ้างถึง GCD (1971) 130 ) และยอมให้การสอนคำสอนหลังรับศีลล้างบาปเองมีความเพียบพร้อมไปด้วยองค์ประกอบสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของช่วงเวลาเตรียมตัวเป็น คริสตชน