แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ยน 6:22-29…
22วันรุ่งขึ้น ประชาชนที่ยังอยู่บนฝั่งตรงข้าม สังเกตเห็นว่า มีเรืออยู่ที่นั่นเพียงลำเดียว และจำได้ว่าพระเยซูเจ้ามิได้เสด็จลงเรือไปกับบรรดาศิษย์ บรรดาศิษย์ไปกันตามลำพังเท่านั้น 23แต่เรือลำอื่นจากเมืองทิเบเรียสมายังสถานที่ที่พวกเขาได้กินขนมปัง 24เมื่อประชาชนเห็นว่าทั้งพระเยซูเจ้า และบรรดาศิษย์ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ก็ลงเรือ มุ่งไปที่เมืองคาเปอรนาอุมเพื่อตามหาพระเยซูเจ้า 25เมื่อพบพระองค์ที่ฝั่งตรงข้าม จึงทูลถามว่า “พระอาจารย์ ท่านมาที่นี่เมื่อไร” 26พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านแสวงหาเรา มิใช่เพราะได้เห็นเครื่องหมายอัศจรรย์ แต่เพราะได้กินขนมปังจนอิ่ม 27อย่าขวนขวายหาอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้อาหารนี้บุตรแห่งมนุษย์จะประทานให้ท่าน เพราะพระเจ้าพระบิดาทรงประทับตรา รับรองบุตรแห่งมนุษย์ไว้แล้ว” 28เขาเหล่านั้นจึงทูลว่า “พวกเราจะต้องทำอะไรเพื่อให้กิจการของพระเจ้าสำเร็จ” 29พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้า ก็คือให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระวรสารเล่าเรื่องต่อไปว่า.... พวกเขาติดตามพระเยซูเจ้า แต่เช้าตรู่ออกตามหาพระองค์ แต่พระองค์เด็จไปเพื่อสวดภาวนา ชีวิตขอพระเยซูเจ้า เป็นชีวิตแห่ความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าพระบิดาของพระองค์ตลอดเวลา พ่อสังเกตเห็นว่า ยิ่งพระองค์สนิทสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าประชาชนยิ่งแสวงหาพระองค์ และอยากพบพระองค์ ข้อความของพระคัมภีรนี้น่าจะเป็นความจริงทีเดียวครับ และเหตุผลที่บรรดาศิษย์ติดตามเพราะพระองค์ทรงใกล้ชิดกับพระบิดา

• พระเยซูเจ้าเห็นประชาชนติดตามพระองค์ พวกเขาติดตามพระองค์เพราะได้รับประทานขนมปัง เพราะพระองค์ทรงทวีขนมปังเลี้ยงดูพวกเขา พวกเขาได้เห็นสิ่งที่เป็นอัศจรรย์ และปรารถนาจะตามความอัศจรรย์หรือความยิ่งใหญ่ของพระองค์

• แต่พระองค์เรียกร้องพวกเขาให้ “ไปไกลความนั้น ลึกกว่านั้น” มิใช่เพียงเพราะขนมปังที่พวกขาได้รับประทานจนอิ่ม แต่ต้องมากไปกว่านั้นจริงๆ “อย่าขวนขวายหาอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้อาหารนี้บุตรแห่งมนุษย์จะประทานให้ ท่านเพราะพระเจ้าพระบิดาทรงประทับตรา รับรองบุตรแห่งมนุษย์ไว้แล้ว” พ่อรู้และเห็นชัดและอยากให้พี่น้องได้ฟังพระเยซูเจ้าสอนวันนี้อย่างชัดเจน...
o พระเยซูเจ้าเคยตรัสกับบรรดาศิษย์เมื่อพวกเขาออกไปซื้ออาหารและกลับมา ได้เห็นพะองค์คุยกับหญิงชาวสะมาเรีย และพวกเขาเชิญให้พระองค์รับประทานอาหาร... แต่พระองค์ตรัสว่า อาหารของพระองค์คือการทำตามพระประสงค์ของพระบิดา
o พระองค์มีอาหารสำคัญกว่า คือ “การทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า” (เทียบ ยน 4)

• พี่น้องที่รัก พ่อจะทำอย่างไรได้มากไปกว่านี้ ให้พี่น้องรับรู้และรู้สึกได้จริงๆ เชื่อจริงๆ ว่า อาหารประจำวันของเราคือการฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระองค์...

• ประสบการณ์เล็กๆวันนี้ วันนี้เองที่พ่อเขียนบทเทศน์นี้ เป็นวันอาทิตย์ พ่อไปถวายมิสซาที่วดเจ้าเจ็ด วัดของพ่อ วัดที่พ่อเติบโตมา... พ่อได้เทศน์ในมิสซาสิบกว่านาที พ่อเห็นสายตาของคนในวัดเยอะมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พ่อเทศน์ไป ใจพ่อก็เป็นสุขไป พ่อเห็นสายตาของพวกเขาจ้องจับพ่อมาก... ไม่เป็นมีใครหลับเลย ตาเขม็งตลอดเวลา พ่อรู้และมั่นใจว่าการเทศน์คือหน้าที่สำคัญที่จะทำให้สัตบุรุษได้รับความเติบโต พ่อถามสังฆานุกรหลังมิสซา “ทำอย่างไรพวกเราจะได้เทศน์เก่งๆ และมีความสุขในการเทศน์กันทุกคน และทำให้สัตบุรุษมีความสุขที่สุดในเวลาฟังเทศน” บราเดอร์ตอบว่า คงต้องฝึกอีกมากๆ พ่อยอมรับว่าเป็นความจริง การเทศน์คือเวลาของการประกาศพระวาจาของพระเจ้าจริงๆ ไม่มีทางอื่นใดที่ดีไปกว่านี้อีกแล้วครับ...

• พ่อยากจะย้ำการเทศน์ของพระสงฆ์จริงครับ “การเทศน์สอนของศาสนบริกรทุกคนต้องถือเป็นภารกิจสำคัญตามนิตินัย”
o พวกเขาต้องให้เวลาในการศึกษา ภาวนา พิจารณาไตร่ตรอง มีความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่การเตรียมการเทศน์ ใส่ใจในพระคัมภีร์ เข้าถึงความหมายหรือสาระที่แท้จริงในคำสอนของบทนั้นๆ
o ตลอดจนความเชื่อมโยงของคำสอนของพระคัมภีร์ทั้งหมดที่สอนโดยพระศาสนจักรด้วย
o ผู้เทศน์ต้องรับฟังประชากรด้วยเช่นกัน เพื่อสามารถเชื่อมโยงสาระของตัวบทพระคัมภีร์เข้ากับสถานการณ์ที่ฆราวาสต้องดำเนินชีวิตในกระแสโลก (เทียบ EG 145-159)
• วันนี้ขอเพียงสั้นๆเท่านี้ครับ... พ่อเชื่อว่า ถ้าพระสงฆ์ เทศน์อย่างดี เตรียมอย่างดี และถือเป็นงานหลักที่ต้องฝึกมากที่สุด.. ทุกๆวันอาทิตย์ บูชามิสซาจะมีชีวิตชีวามากๆ แน่นอนครับ

• “พวกเราจะต้องทำอะไรเพื่อให้กิจการของพระเจ้าสำเร็จ” 29พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้า ก็คือให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา”
o กิจการของพระเจ้าคือ เราฟังพระวาจาและเชื่อในพระวาจาของพระองค์ และที่สำคัญ
o ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ที่เราเชื่อครับ

• สรุป
o พี่น้องฟังพระเจ้า พระวาจาของพระเจ้า อ่านและไตร่ตรอง เพียงใด
o ปฏิบัติตามบัญญัติขอพระเจ้าอยู่เสมอใช่ไหมครับ
o รักและติดตามพระวาจาแสนอ่อนโยนของพระองค์ใช่ไหมครับ
o เดินตามพระเจ้ากันนะครับ.. เชื่อในพระองค์.. ขอพรเจ้าอวยพรครับ