แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

4060118 f520พระตรีเอกภาพ:ความเป็นหนึ่งเดียวในกลุ่ม
คริสตชนเชื่อว่าพระเจ้าเป็นดั่งพระตรีเอกภาพ ผู้ประกอบด้วยพระบุคคลทั้งสามคือ พระบิดา, พระบุตร และพระจิต  เรื่องพระตรีเอกภาพผู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นคำสอนหลักในความเชื่อคาทอลิกซึ่งเป็นที่มาของคำสอนอื่นๆ

พระเจ้าคือใคร?
CCC 210-221
    เมื่อโมเสสถามพระเจ้าเรื่องชื่อของพระองค์  พระเจ้าทรงตอบว่า ยาห์เวห์(Yahweh) ซึ่งหมายถึง “เราคือผู้เป็น” (I am who am)  มีความหมายง่ายๆว่า ยาห์เวห์ คือ สิ่งที่เป็นอยู่ด้วยตัวเอง

พระเยซูทรงสอนเรื่องพระเจ้าพระบิดาอย่างไร?
CCC 238-242
    พระเยซูทรงกล่าวถึงพระเจ้าผู้เป็นดั่งบิดา โดยใช้คำว่า Abba อันเป็นคำที่แสดงออกถึงความรัก  หมายความว่า “พระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก”  พระเยซูทรงบอกข่าวดีแก่บรรดาอัครสาวกว่า พวกเขา(และเราด้วย)สามารถเรียกพระเจ้าเป็นบิดาได้  พระเยซูทรงสอนว่าพระบิดาทรงรักเราอย่างที่เราไม่อาจเข้าใจได้ คืออย่างมากมายเหลือคณา และปราศจากเงื่อนไขใดๆ  เราไม่สามารถหาความรักนี้ได้  เพราะมันเป็นของประทานที่หลั่งไหลมายังคนดีและคนบาปเหมือนๆกัน

พระบิดาของเราผู้เปี่ยมด้วยความรักทรงรู้ถึงความจำเป็นต่างๆของเรา  และจะประทานสิ่งที่ดีแก่เรา  นักบุญเปาโลเตือนเราว่าพระบิดาทรงสร้างทุกสิ่งและทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้นโดยอาศัยพระบุตรของพระองค์
    ความคิดเรื่องพระเจ้าเป็นดั่งมารดายังเพิ่มความเข้าใจเรื่องความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา  แม่ที่ดีปกป้องลูกด้วยความเห็นใจ, อภัยให้อย่างสนิทใจ, ยอมรับลูกของเธออย่างไม่มีเงื่อนไข  ลูกทุกคนผู้ได้รับความรักจากบิดามารดาผู้ไว้วางใจได้ รู้ว่ามันเป็นความรักที่เป็นแบบธรรมชาติที่สุด, พบได้ง่าย, มีความเห็นใจและการช่วยเหลือ  ความรักของพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้น
    ความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าเป็นดั่งมารดาหรือบิดามีประโยชน์ เพราะว่าพระเจ้าทรงทำให้คุณลักษณะทั้งหลายของบิดาและมารดาที่เราใฝ่หาเป็นรูปธรรม ได้แก่ ความสามารถสร้างสรรค์, การค้ำจุน, การให้การเลี้ยงดู, การแนะนำ, ความเป็นผู้พบหาได้, และความรัก แต่พระเจ้าทรงมีสิ่งเหล่านี้อย่างไม่จำกัด และไม่ถูกจำกัดด้วยขอบเขตของการเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง  ความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าความรักของพ่อแม่ทั่วไปอย่างที่ไม่สามารถคิดได้

เรารู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าพระบุตร?
CCC 240-242
    คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นทั้งรูปลักษณ์มนุษย์ของพระเจ้าและรูปลักษณ์พระเจ้าของมนุษย์  พระเยซูทรงเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” และสัมพันธ์กับพระองค์แบบเป็นหนึ่งเดียวกัน  พระองค์ทรงสอนว่ามีเพียงพระบุตรที่รู้จักพระบิดา และทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีก็เป็นของพระบุตร หมายความว่าพระบิดาทรงมอบอำนาจทั้งหมดของพระองค์ให้พระบุตร และพระวาจาของพระบุตรก็คือพระวาจาของพระบิดาผู้ทรงส่งพระบุตรมายังโลก  ถ้าเรารู้จักพระเยซู เราก็รู้จักพระบิดา  ทุกสิ่งเกี่ยวกับพระเยซูแสดงให้เห็นพระบิดา

เรารู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าพระจิต?
CCC 243-244
    พระจิตประทับอยู่กับพระเยซูตลอดเวลาที่ทรงทำงานบริการของพระองค์  พระเยซูทรงสัญญาจะส่งพระจิตให้กับผู้ติดตามพระองค์ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ทำภารกิจของพระองค์บนโลกนี้ต่อไป  พระองค์ทรงสัญญาว่าพระจิตผู้ทรงความจริงและความรักจะมาประทับท่ามกลางประชากรของพระเจ้า  เช่นเดียวกับที่พระจิตทรงให้อำนาจผู้ติดตามพระเยซูในวันเป็นเตกอส  พระจิตทรงทำให้เราเข้าใกล้พระบุตร เพื่อว่าเราจะรู้จักพระองค์ในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ของเรา  พระจิตสามารถทำให้เราประกาศว่าพระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเรา  และพระจิตทรงเป็นแหล่งที่มาของของขวัญที่ดีทั้งหมดที่เราได้รับจากพระเจ้าผู้ทรงสง่างามและรักเรา
พระธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ...คือพระธรรมล้ำลึกอันเป็นศูนย์กลางความเชื่อและชีวิตของคริสตชน  เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความลึกลับในองค์พระเจ้าเอง  ดังนั้นจึงเป็นแหล่งที่มาของพระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องอื่นๆ เป็นแหล่งข้อมูลที่ทำให้พระธรรมล้ำลึกเรื่องอื่นๆ กระจ่างแจ้ง และเป็นคำสอนพื้นฐานและจำเป็นที่สุดใน “การจัดลำดับความสำคัญแห่งความจริงอันเป็นความเชื่อ”
    -หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, 234

พระตรีเอกภาพเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
CCC 236-237
    เราไม่สามารถเข้าใจคำสอนเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพได้อย่างสมบูรณ์  แม้ความเข้าใจอันลึกซึ้งที่สุดของมนุษย์ก็ไม่สามารถไปถึงพระเจ้าได้  แต่พระเจ้าทรงรู้จักเราอย่างละเอียดมากกว่าที่เรารู้จักตัวเอง  พระองค์ทรงเลือกที่จะร่วมอยู่ในความเป็นมนุษย์ของเราอาศัยพระบุคคลคือ พระเยซู และมีที่พำนึกอยู่ในเราโดยอาศัยพระจิต  ด้วยการไตร่ตรองในเรื่องคำสอนเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพ เราพบการปรากฏแวบหนึ่งของส่วนประกอบสำคัญของพระเจ้าเอง ซึ่งก็คือความรัก อันเป็นการสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งของพระบิดา, พระบุตร และพระจิต ผู้เป็นพระบุคคลทั้งสามในพระเจ้าหนึ่งเดียว
    พระเจ้าพระบิดาทรงสร้างทุกสิ่ง และทรงประทานชีวิตพร้อมทั้งการเป็นอยู่แก่ทุกสิ่งที่ทรงสร้าง  พระเจ้าพระบุตรประทับท่ามกลางเรา, ทรงสอนเราเกี่ยวกับความรักของพระบิดา และทรงได้รับความรอดชั่วนิรันดร์เพื่อเรา  พระเจ้าพระจิตทรงเป็นความรักของพระเจ้าผู้ประทับอยู่ภายในเราและภายในพระศาสนจักรในฐานะแหล่งกำเนิดเอกภาพ, ความกล้าหาญ, ความจริงและความรักสำหรับมนุษย์ทั้งมวล

ความสัมพันธ์ภายในพระตรีเอกภาพเป็นอย่างไร?
CCC 254-256
    อีกวิธีหนึ่งที่จะเข้าใจความลึกลับของพระตรีเอกภาพคือ การไตร่ตรองเกี่ยวกับพระบุคคลผู้มีเทวภาพที่แตกต่างทั้งสามคือ พระบิดา, พระบุตรและพระจิต  แต่เราต้องไม่คิดเรื่องพระบุคคลผู้มีเทวภาพในทำนองเดียวกับที่เราคิดเรื่องบุคคลผู้เป็นมนุษย์  ไม่ได้มีสภาวะจิตที่แตกต่างสามส่วนในพระเจ้า  แต่เป็นการมีสภาวะจิตแบบธรรมดาเพียงหนึ่งเดียว  ไม่ได้มีสติปัญญาหรือความปรารถนาที่แยกจากกันสามส่วนในพระเจ้าหนึ่งเดียว  เมื่อพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพกระทำสิ่งใดอีกสองพระบุคคลก็ทรงกระทำด้วย  แต่ละบุคคลแตกต่างกัน แต่ไม่ได้แยกกันกระทำ  พระเจ้าเป็นความสัมพันธ์แนบแน่นแบบหนึ่ง หรือเรียกได้ว่าเป็นความเป็นเอกภาพด้วยความรักอย่างสมบูรณ์
    พระเจ้าทรงกระทำในฐานะบุคคลหนึ่ง แม้ว่าเราจะจัดแจงหรือถือเอาว่าการกระทำทั้งหลายเป็นของพระบุคคลต่างๆอย่างเฉพาะเจาะจง  ตัวอย่างเช่น เราถือว่าการสร้างเป็นของพระบิดา, การไถ่กู้เป็นของพระบุตร และการทำให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นของพระจิต
    คำสอนของคาทอลิกที่สืบต่อกันมาอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพระบุคคลทั้งสามในลักษณะต่อไปนี้
พระบิดา    เป็นบุคคลแรกในพระตรีเอกภาพที่ไม่มีจุดกำเนิด  พระองค์ก่อให้เกิดพระบุตร ผู้ดำรงอยู่ตลอดกาล ซึ่งเป็นพระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพ
พระบุตร    พระบุตรเป็นการแสดงให้เห็นพระบิดาอย่างสมบูรณ์โดยพระบิดา  ที่เราใช้คำว่า พระวาจาของพระเจ้า  ทั้งสองพระองค์เป็นหนึ่งเดียวแต่ก็มีความแตกต่าง
พระจิต    พระบิดาและพระบุตรรักกันและกันด้วยความรักแบบพระเจ้าที่สมบูรณ์ชั่วนิรันดร์  ความรักเกิดมาจากพระบิดากับพระบุตร และถูกเรียกเป็นพระบุคคลที่สามในพระตรีเอกภาพ หรือที่เรียกว่าพระจิต  พระจิตเป็นจิตแห่งความรักระหว่างพระบิดาและพระบุตร ทั้งยังเป็นจิตซึ่งผูกพันทั้งสองพระบุคคลให้เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีความเป็นหนึ่งเดียว