พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม มีความหมายอย่างไรต่อคริสตชน
ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงเผยแสดงพระองค์ในฐานะพระผู้สร้าง ผู้ปกปักรักษาโลก ผู้นำ และผู้ฝึกสอนมนุษย์ชาติ หนังสือต่างในพันธสัญญาเดิมเป็นพระวาจารของพระเจ้า และเป็นพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย ปราศจากพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม เราไม่สามารถเข้าใจพระเยซูเจ้าได้ (12-123, 128-130, 140)

    ใน พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของการเรียนรู้เรื่องความเชื่อได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งดำเนิมาสู่จุดสุดท้ายในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ และจนมาถึงจุดหมายปลายทางด้วยการสิ้นสุดของโลกและการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระคริสตเจ้า    พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมจึงเป็นมากกว่าบทนำของพระคัมภัร์พันธสัญญาใหม่ พระบัญญัติและคำพยากรณ์ต่างๆ สำหรับประชาชน    ในพันธสัญญาเดิม และ พระสัญญาต่างๆ ที่ทรงมีต่อมนุษย์ทุกคนนั้นไม่เคยถูกเพิกถอนในหนังสือพันธสัญญาเดิม เราพบขุมทรัพย์อันล้ำค่าของการอธิษฐานภาวนาและปรีชาญาณโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลงสดุดี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการอธิษฐานภาวนาประจำวันของพระศาสนจักร

“พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค พระเจ้าของยาโคบ ไม่ใช่พระเจ้าของนักปรัชญาและนักวิชาการแต่เป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสตเจ้า เราจะพบและรู้จักพระองค์ได้ก็ในแนวทางที่พระวรสารสอนเท่านั้น” แบลช ปัสกัล (1588-1651) นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส หลังจากได้ประสบการณ์กับพระเจ้า
“การไม่รู้จักพระคัมภีร์ คือ การไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” นักบุญเยโรม (347-419) ปิตาจารย์และนักปราชญ์ของพระศาสนจักร ผู้อธิบายความและแปลพระคัมภีร์
“เมื้อเราได้พบพระเจ้าผู้ทรงชีวิตในพระคริสตเจ้าแล้วเท่านั้น เราจึงจะรู้ว่าชีวิตคืออะไร ไม่มีอะไรงดงามไปกว่าความรู้สึกอัศจรรย์ในพระวรสาร และในการพบปะกับพระคริสตเจ่า” สมเด็จพระสันตะปกาปาเบเนดิกต์ที่ 16 24 เมษายน 2005
“พระคัมภีร์ คือ จดหมายรักของพระเจ้าที่มอบให้เรา” Soren Kierkegaard