แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การจาริกแสวงบุญ
คุณพ่อทัศไนย์ คมกฤส
    การจาริกแสวงบุญ หรือการเดินทางแสวงบุญเป็นคำที่เราใช้เพื่อหมายถึงกิจกรรมที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “pilgrimage” ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำภาษาลาตินว่า “peregrinatio” [per = ผ่าน + ager = ทุ่งนา รวมแล้วแปลว่า “การเดินทาง(ผ่านทุ่งนา)ไปยังที่ต่างๆนอกถิ่นที่อยู่” คำนามภาษาลาตินเรียกผู้ทำกิจกรรมนี้ว่า “peregrinus” แล้วกลายเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ‘peregrin, pelerin” ผ่านมาเป็นภาษาอังกฤษว่า “pilgrim”] ในปัจจุบันคำนี้มักจะมีความหมายทางศาสนา หมายถึงการเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพนับถือพิเศษ

เพราะสถานที่นั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า หรือเทพเจ้าของตน หรือมิฉะนั้นก็เกี่ยวข้องกับบุคคลศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพของประชาชน โดยมีเจตนาเพื่ออ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากเบื้องบน หรือเพื่อขอบคุณที่ได้รับความช่วยเหลือนั้นมาแล้ว นอกนั้นบางครั้งยังมีเจตนาเป็นการชดเชยความผิดที่ได้เคยทำไว้ในอดีตด้วย     เราพบการปฏิบัติเช่นนี้ไม่ใช่จำเพาะในคริสตศาสนาเท่านั้น ศาสนาใหญ่ๆล้วนมีธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้ด้วยกันทั้งนั้น เช่น ศาสนาฮินดูก็มีการไปแสวงบุญเช่นที่เมืองพาราณสี ชาวพุทธก็มักจะแสวงบุญไปยังสถานที่ประสูตร ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ชาวมุสลิมก็มีการฮัจไปยังนครเมกกะ เป็นต้น ตั้งแต่สมัยพันธสัญญาเดิมแล้ว ชาวอิสราเอลมักจะแสวงบุญไปยังสักการสถานที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือบุคคลสำคัญในอดีต เช่นสักการสถานที่เชเคม และมัมเรซึ่งเกี่ยวข้องกับอับราฮัม.  เบธเอลซึ่งเกี่ยวข้องกับยาโคบ. กิลกัล ชิโล หรือมิสปาห์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตั้งถิ่นฐานของเผ่าต่างๆในแผ่นดินคานาอัน เป็นต้น แต่ในที่นี้เราจะกล่าวถึงการจาริกแสวงบุญจำเพาะที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนาและคริสตชนเท่านั้น
    การจาริกแสวงบุญไปยังแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์
    สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคริสตชนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกมาตั้งแต่ต้นก็คือสถานที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าอันได้แก่สถานที่ต่างๆในดินแดนปาเลสไตน์ที่พระเยซูเจ้าเคยประทับอยู่หรือทรงประกอบกิจการที่มีเล่าไว้ในพระคัมภีร์  เอวเซบีอุสนักประวัติศาสตร์เล่าว่าตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แล้ว เมลีโตพระสังฆราชแห่งเมืองซาร์แดสได้เดินทางไปแสวงบุญในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เมื่อปี ค.ศ. 160  ในศตวรรษต่อมาพระสังฆราชอเล็กซานเดอร์แห่งกับปาโดเชียก็เดินทางแสวงบุญไปที่กรุงเยรูซาเล็มในปี ค.ศ. 216 เป็นต้น เมื่อพระจักรพรรดิคอนสแตนตินให้อิสรภาพแก่คริสตศาสนาในปี ค.ศ. 313 แล้ว การจาริกแสวงบุญของคริสตชนไปยังแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ก็สะดวกขึ้นและยังได้รับการสนับสนุนจากพระจักรพรรดิและนักบุญเฮเลนาพระมารดาของพระองค์ที่ก่อสร้างอาคารถาวรตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆระหว่างปี ค.ศ. 325-330 เช่นพระวิหาร ณ เนินกัลวาริโอและพระคูหาของพระเยซูเจ้าที่เรียกว่า “Holy Sepulcher” พระวิหาร ณ สถานที่ที่ทูตสวรรค์ปรากฏองค์แก่อับราฮัมที่มัมเรใกล้เมืองเฮบโรน พระวิหาร ณ สถานที่ประสูตรของพระเยซูเจ้าที่เมืองเบธเลเฮม และที่เสด็จขึ้นสวรรค์บนเนินเขามะกอกเทศ เป็นต้น เราทราบจากข้อเขียนของบรรดาปิตาจารย์ว่าในศตวรรษที่ 4 นี้เองคริสตชนจากยุโรปและที่ต่างๆพากันเดินทางจาริกแสวงบุญมาที่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมาก เมื่อจาริกแสวงบุญมาเยี่ยมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูเจ้าแล้ว ผู้จาริกแสวงบุญหลายคนยังเดินทางไปเยี่ยมเยียนสถานที่อื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับบรรดานักบุญนักพรตสมัยแรกๆในบริเวณนั้นและในประเทศอียิปต์อีกด้วย บางคนก็มาพำนักอยู่ที่นั่นเป็นการถาวรเลย เช่นนักบุญเยโรม นักบุญเปาลาและเอวสโตคีอุมบุตรสาว เป็นต้น คริสตชนที่มาจาริกแสวงบุญยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้หลายคนยังบันทึกเหตุการณ์และรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสถานที่และพิธีกรรมที่เขาเข้าร่วมในโอกาสต่างๆที่เดินทางมาแสวงบุญนั้นด้วย เช่นนางเอเธรีอาจากประเทศสเปน ซึ่งเล่าถึงพิธีกรรมที่กรุงเยรูซาเล็มที่เธอเข้าร่วมตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รวมทั้งเล่าถึงสถานที่ต่างๆที่เธอได้ไปเยี่ยมในซีเรียจนถึงเมืองเอเดสซา ในคาบสมุทรซีนายและประเทศอียิปต์ด้วย ดูเหมือนว่าในศตรรษที่ 4-6 บรรดาคริสตชนจากยุโรปพากันจาริกแสวงบุญไปยังแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์กันมากทีเดียว จะมาซบเซาเอาก็เมื่อชาวมุสลิมเข้ายึดครองดินแดนแถบนั้นในศตวรรษต่อมา
    การจาริกแสวงบุญตามอารามในอียิปต์
    ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 การบำเพ็ญพรตในถิ่นทุรกันดารเป็นรูปแบบของการดำเนินชีวิตคริสตชนที่มุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงแบบหนึ่ง อารามต่างๆในถิ่นทุรกันดารของอียิปต์จึงเป็นจุดหมายของการจาริกแสวงบุญของคริสตชนในสมัยโบราณรองจากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ “ชีวประวัติของนักบุญอันตน” ผู้นำชีวิตบำเพ็ญพรตในถิ่นทุรกันดารของอียิปต์ (ค.ศ. 251-356) ซึ่งนักบุญอาทานาสแห่งอเล็กซานเดรียเป็นผู้นิพนธ์มีส่วนอย่างมากในการส่งเสริมชีวิตบำเพ็ญพรตในที่ต่างๆรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และยังชักชวนผู้จาริกแสวงบุญให้เดินทางไปขอคำแนะนำจากบรรดานักพรตที่ดำเนินชีวิตเคร่งครัดในถิ่นทุรกันดารเหล่านั้นด้วย บรรดาผู้จาริกแสวงบุญสามารถเดินทางไปยังอารามต่างๆในแถบแคว้นนีเตรีย ประมาณ 80 ก.ม. ทางใต้ของเมืองอเล็กซานเดรียได้โดยไม่ลำบากมากนัก  แต่การเดินทางไปยังแคว้นเทเบสทางใต้ลงไปอีกนั้นมีความยากลำบากและอันตรายมาก    ถึงกระนั้นนักบุญอาทานาสและนางเอเธรีอาก็เดินทางไปถึงและยังเล่าไว้ในบันทึกของเธอด้วย
    การจาริกแสวงบุญที่กรุงโรมและที่อื่นๆ
    แม้ว่าใน 6 ศตวรรษแรก กรุงโรมยังไม่ใช่จุดหมายของการจาริกแสวงบุญที่มีความสำคัญเท่ากับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็มีหลักฐานบอกเราว่าคริสตชนจำนวนไม่น้อยที่มาประกอบธุรกิจที่นี่ได้ไปเยี่ยมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นั่นที่เกี่ยวข้องกับนักบุญเปโตรและเปาโลและบรรดามรณสักขี ดังจะเห็นได้จากข้อความที่ขีดเขียนไว้ (grafitti) ตามผนังของกาตาโคมบ์ต่างๆและในบริเวณใกล้ที่ฝังศพของนักบุญเปโตรและเปาโล เราทราบว่านักบุญโปลีการ์ปพระสังฆราชแห่งเมืองสมีนาร์ในเอเซียน้อยได้มาเยี่ยมกรุงโรมราวปี ค.ศ. 150 อาแบร์ชีอุสแห่งฮีเอราโปลิสในแคว้นฟรีเจีย (ราว ค.ศ. 216) และโอรีเจน (ราว ค.ศ. 212) ดูเหมือนจะได้จาริกแสวงบุญมาที่กรุงโรม “เพราะปรารถนาจะเห็นพระศาสนจักรโรมที่เก่าแก่ที่สุด” เช่นเดียวกับในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ อิสรภาพที่พระศาสนจักรได้รับจากพระจักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นสาเหตุส่งเสริมให้คริสตชนจากที่ต่างๆนิยมจาริกแสวงบุญมาที่กรุงโรมด้วย พระสันตะปาปานักบุญดามาซัส (366-384) ได้บูรณะที่ฝังศพบรรดามรณสักขีตามคาตาโคมบ์ต่างๆ และยังสลักบทกลอนไพเราะไว้ตามที่ฝังศพเหล่านั้นเป็นการเทิดเกียรติบรรดามรณสักขีและช่วยให้คริสตชนที่มาแสวงบุญทราบเรื่องราวของบรรดามรณสักขีดีขึ้นอีกด้วย การจาริกแสวงบุญเช่นนี้มักจะมีการเฉลิมฉลองแสดงความยินดีซึ่งบางทีก็เลยเถิดไปจนหลายครั้งบรรดาพระสงฆ์และผู้ปกครองทางศาสนาต้องเทศน์ปรามไว้ การจาริกแสวงบุญมาที่กรุงโรมนี้ดำเนินต่อมาอย่างต่อเนื่องจนถึงสมัยกลาง ตอนต้นศตวรรษที่ 6 พระสันตะปาปาซิมมาคัส (498-514) ได้สร้างที่พัก 3 แห่งไว้ในบริเวณใกล้ที่ฝังศพของนักบุญเปโตร เปาโล และลอเรนซ์ เพื่อความสะดวกของผู้จาริกแสวงบุญ ในศตวรรษเดียวกันนี้เกรโกรีแห่งเมืองตูรส์ยังกล่าวถึงกิจกรรมต่างๆของผู้จาริกแสวงบุญที่กรุงโรมจากประเทศโกล (ฝรั่งเศส) และกล่าวด้วยว่ากิจการที่สำคัญประการหนึ่งของการแสวงบุญก็คือเพื่อหาพระธาตุไปประดิษฐานไว้ตามสักการสถานในประเทศโกลด้วย
    นอกจากกรุงโรมแล้ว คริสตชนยังนิยมจาริกแสวงบุญไปยังที่ฝังศพของมรณสักขีอื่นๆซึ่งเป็นที่เคารพนับถืออีกด้วย เช่นมรณสักขีกัสเซียนที่เมืองอีโมลา และเฟสิกซ์ที่เมืองโนลา ไม่ไกลจากกรุงโรม ส่วนในประเทศโกลก็มีการจาริกแสวงบุญไปยังที่ฝังศพของบรรดามรณสักขีด้วย เช่นราวกลางศตวรรษที่ 4 มีการสร้างสักการสถานใกล้สถานที่ซึ่งนักบุญโมริสถูกประหารเป็นมรณสักขีพร้อมกับบรรดาทหารแห่งกองพันเทเบสที่เมืองวาแลส์ในสวิสเซอร์แลนด์ (ราวปี 286) บรรดาผู้แสวงบุญจากประเทศโกลมักจะผ่านมาที่นี่เมื่อกลับจากกรุงโรม และยังมีผู้แสวงบุญจำนวนมากมาขอท่านนักบุญรักษาให้หายจากโรคภัยอีกด้วย ราวกลางศตวรรษที่ 5 จึงได้สร้างที่พักขนาดใหญ่ไว้ต้อนรับผู้จาริกแสวงบุญและคนเจ็บป่วย และในศตวรรษที่ 6 ยังได้สร้างอาราม Saint-Maurice d’Agaune ซึ่งยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ตอนปลายศตวรรษที่ 4 นี้เอง สถานที่จาริกแสวงบุญที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในประเทศโกลก็คือที่ฝังศพของนักบุญมาร์ตินที่เมืองตูรส์ซึ่งเกรโกรีแห่งเมืองตูรส์บอกว่าต่อมาอีก 2 ศตวรรษก็ยังมีผู้จาริกแสวงบุญมาที่นี่ไม่ขาดสาย นับตั้งแต่คนสำคัญเช่นกษัตริย์โคลตาร์ชาวฟรังส์ (ราว ค.ศ. 560) ไปจนถึงคนธรรมดาสามัญเช่นวุลไฟลกัส เด็กหนุ่มชาวแคว้นลอมบาร์เดียซึ่งภายหลังได้เป็นฤาษีเคร่งครัดอยู่ที่อาศรมใกล้เมืองอีวัวส์     ในศตวรรษที่ 5 เมืองอาร์ลส (Arles) ก็เป็นที่ที่คริสตชนนิยมจาริกแสวงบุญมายังที่ฝังศพของนักบุญเยเนซีอัส ในโอกาสหนึ่งผู้แสวงบุญมีจำนวนมากจนว่าสะพานที่ข้ามแม่น้ำไประหว่างสักการสถาน 2 แห่งของท่านนักบุญที่นี่ถึงกับพังลงเพราะทานน้ำหนักประชาชนไม่ไหว
    ยังมีสักการสถานจาริกแสวงบุญที่สำคัญในยุโรปอีกหลายแห่ง เช่น ในสเปนก็มีที่กอมปอสเตลา (Compostela จาก Campus Stellae) ซึ่งตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 830 เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังศพของนักบุญยากอบ (บุตรของเศเบดี) อัครสาวก เมืองบารีทางใต้ของคาบสมุทรอิตาลีก็เป็นที่ที่ผู้จาริกแสวงบุญมาคารวะนักบุญนิโคลัสพระสังฆราชแห่งเมืองไมราในเอเซียน้อย (นักบุญนิโคลัสองค์นี้คือ “ซานตาคลอส” ขนานแท้) ซึ่งศพของท่านถูกย้ายมาประดิษฐานไว้ที่นี่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 นอกจากนั้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ก็มีผู้จาริกแสวงบุญไปยังภูเขาการ์กาโนในแคว้นอาปูลีอา สถานที่ซึ่งเชี่อกันว่าอัครเทวดามีคาเอลได้ปรากฏองค์ให้เห็น ภายหลัง ค.ศ. 710 ผู้จาริกแสวงบุญยังพากันไปแสวงบุญที่ Mont-Saint-Michel ซึ่งอยู่ชายทะเลระหว่างรอยต่อของแคว้นนอร์มันดีและบริตันนีในฝรั่งเศสด้วยเหตุผลเดียวกัน
    การแสวงบุญถวายเกียรติแด่พระแม่มารีย์
    การจาริกแสวงบุญไปยังสักการสถานเพื่อถวายเกียรติแด่พระแม่มารีย์เริ่มมีขึ้นภายหลังการจาริกแสวงบุญไปยังที่ฝังพระศพพระเยซูเจ้าหรือที่ฝังศพของบรรดานักบุญในสมัยแรกๆ การแสวงบุญเป็นเกียรติแด่พระแม่มารีย์นี้ในยุโรปอาจนับย้อนไปได้ถึงประมาณศตวรรษที่ 7 เป็นอย่างน้อย แม้ว่าสักการสถานที่เมืองซาโวนา ใกล้เมืองเยนัว อิตาลีจะอ้างว่ามีผู้จาริกแสวงบุญมาที่นี่ตั้งแต่สมัยพระจักรพรรดิคอนสแตนตินแล้วก็ตาม ต้นตอของความศรัทธาต่อสถานที่ “ศักดิ์สิทธิ์” เหล่านี้มักจะกล่าวกันว่ามาจาก “การประจักษ์” หรือ “การเปิดเผย”พิเศษที่แม่พระแสดงให้เห็น การประจักษ์ของพระแม่มารีย์ ณ ที่ต่างๆในสมัยปัจจุบัน เช่นที่ลูร์ด (1858) หรือฟาติมา (1917) ฯลฯ
    ความนิยมมากน้อยในการจาริกแสวงบุญ
    มีสาเหตุหลายประการเป็นตัวกำหนดความนิยมมากน้อยในการจาริกแสวงบุญ ความยากลำบากของการเดินทางในสมัยก่อนนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของการจาริกแสวงบุญ ซึ่งยังขึ้นอยู่กับความเชื่อและความเลื่อมใสของคริสตชนด้วย การเดินทางในสมัยก่อนต้องใช้เวลาและทุนทรัพย์ไม่น้อย และยังต้องเสี่ยงภัยอันตรายต่างๆระหว่างทางอีกด้วย หลังจากที่ชาวมุสลิมเข้ายึดครองดินแดนทางตะวันออกกลางซึ่งเป็นที่ตั้งของปาเลสไตน์ การเดินทางแสวงบุญไปยังแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์มีความลำบากมากขึ้น ผู้ที่จะเดินทางแสวงบุญจึงต้องมีความเชื่อและความมุ่งมั่นตั้งใจจริงเป็นพิเศษ การจาริกแสวงบุญตามสักการสถานต่างๆในยุโรปจึงได้รับความนิยมมากขึ้น และผู้จาริกแสวงบุญมักจะร่วมเดินทางไปเป็นกลุ่มเพื่อความปลอดภัย ประหยัดรายจ่ายและยังเป็นการช่วยเสริมความศรัทธาของกันและกันด้วย นอกจากนั้นผู้ปกครองบ้านเมืองและพระศาสนจักรยังพยายามดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญ คอยปราบปรามโจรผู้ร้าย มีการสร้างที่พักสำหรับผู้จาริกแสวงบุญตามเส้นทางที่สำคัญๆ หรือใกล้เคียงกับสักการสถานจุดหมายของการจาริกแสวงบุญ มีการตั้งคณะนักบวชขึ้นมาหลายคณะเพื่อช่วยเหลือผู้จาริกแสวงบุญโดยเฉพาะด้วย เช่น อัศวินนักบุญยากอบ (The Knights of St. James) ในประเทศสเปน อัศวินแห่งพระวิหาร (The Knights Templars) อัศวินแห่งมอลต้า (The Knights of Malta) เพื่อช่วยป้องกันอันตรายของผู้จาริกแสวงบุญในการเดินทาง หรือเพื่อดูแลรักษาเมื่อเจ็บป่วย
    แต่ถึงอย่างไรการเดินทางในสมัยนั้นก็ยังเป็นภาระหนักไม่ใช่น้อย การจาริกแสวงบุญจึงนับว่าเป็นวิธีหนึ่งที่จะชดเชยความผิดที่ได้กระทำลงไปด้วย กฎหมายของพระศาสนจักรและหลายครั้งกฎหมายทางบ้านเมืองด้วยกำหนดให้ผู้ทำผิดหนักต้องชดเชยความผิดที่ได้ทำโดยจาริกแสวงบุญไปยังแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์หรือสักการสถานต่างๆ การจาริกแสวงบุญจึงเป็นโอกาสที่คริสตชนจะได้รับการอภัยโทษอันเนื่องมาจากบาปที่ได้กระทำ ในสมัยก่อนเมื่อจะออกเดินทางแสวงบุญ ผู้แสวงบุญจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม มีเสื้อผ้าทนทานเท่าที่จำเป็นและมีลักษณะชี้ให้เห็นด้วยว่าเขามีความสำนึกในบาปและความผิดของตน สวมหมวกปีกกว้าง ถือไม้เท้า มีย่ามใส่สิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง ทางพระศาสนจักรยังจัดให้มีพิธีกรรมพิเศษเพื่ออวยพรผู้จาริกแสวงบุญก่อนออกเดินทาง และพระสังฆราชมักจะออกหนังสือรับรองอีกด้วยว่าเขาเป็นผู้จาริกแสวงบุญจริงๆไม่ใช่เพื่อหลอกลวงหรือแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว นอกจากนั้นโดยปรกติมักจะเรียกร้องให้ผู้จาริกแสวงบุญจัดการเรื่องราวเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวให้เรียบร้อย ใช้หนี้สินหรือชดเชยความเสียหายที่เคยกระทำต่อผู้อื่น จัดการให้สมาชิกในครอบครัวมีทรัพย์สินเพียงพอที่จะดำรงชีพอยู่ได้อย่างดีระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน ส่วนเงินทองส่วนที่เหลือก็จะทำทานและนำติดตัวไปใช้จ่ายระหว่างเดินทางซึ่งไม่แน่ว่าเขาจะกลับมาโดยปลอดภัยหรือไม่
    กิจกรรมของผู้จาริกแสวงบุญ
    โดยปรกติเมื่อผู้จาริกแสวงบุญมาถึงสักการสถานที่ต้องการแล้วก็มักจะสวดภาวนาและทำกิจใช้โทษบาปตามที่ได้บนบานสัญญาไว้ ผู้แสวงบุญมักจะคุกเข่าสวดภาวนา บางทีก็เดินเท้าเปล่า หรือคุกเข่าเดินในระยะทางที่กำหนด กิจกรรมสำคัญอีกอย่างหนึ่งของผู้แสวงบุญก็คือการรับศีลศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะศีลมหาสนิทและศีลอภัยบาปเพื่อแสดงการกลับใจอย่างแท้จริง จะได้สนิทสนมกับพระคริสตเจ้าและบรรดานักบุญให้มากยิ่งขึ้น ตามสักการสถานต่างๆที่มีผู้นิยมไปแสวงบุญจึงมักจะมีพระสงฆ์จำนวนมาก คอยให้บริการศีลอภัยบาปและถวายมิสซาสำหรับผู้แสวงบุญ ผู้แสวงบุญส่วนใหญ่ยังถวายเงินหรือสิ่งของที่นำมาให้แก่สักการสถานอีกด้วย โดยเฉพาะถ้าได้รับการรักษาให้หายจากโรคหรือได้รับพระคุณพิเศษ ผู้แสวงบุญมักจะถวายสิ่งของเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นพระคุณที่ได้รับ เช่น ถวายรูปหัวใจ หรือรูปอวัยวะที่หายจากโรค ถวายเทียนหรือน้ำมันสำหรับจุดตะเกียงที่สักการสถานฯลฯ
    เรากล่าวมาข้างต้นแล้วว่าผู้จาริกแสวงบุญบางคนยังคงสมัครใจพำนักอยู่ต่อไป ณ สักการสถานนั้นเพื่อบริการผู้อื่น หรืออาจเดินทางแสวงบุญต่อไปยังสักการสถานอื่นๆ แม้กระทั่งในสมัยปัจจุบันก็ยังมีบางคนที่จาริกแสวงบุญไปตามสักการสถานต่างๆตลอดชีวิต (“peregrinantes” ไม่ใช่เพียง “peregrini”) นักบุญเบเนดิ๊ก โยเซฟ ลาเบรอ (ศตวรรษที่ 18) เป็นผู้ที่ “ทำตนเป็นคนบ้าของพระคริสตเจ้า” แสวงบุญไปตามสักการสถานต่างๆตลอดชีวิต
    ความหมายแท้จริงของการจาริกแสวงบุญ
    ในปัจจุบันนี้การเดินทาง “แสวงบุญ” ไม่ยากลำบากเหมือนในสมัยก่อน ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในการเดินทางและที่พักทำให้การจาริกแสวงบุญในปัจจุบันไม่เป็นการเสี่ยงชีวิตเพื่อแสดงความเชื่ออย่างแต่ก่อน นอกจากนั้นยังมีการท่องเที่ยวเยียมเยียนสถานที่ต่างๆเป็นของแถมด้วย หลายคนที่ไป “แสวงบุญ” จึงอาจลืมจุดประสงค์เอกของการจาริกแสวงบุญไปได้ง่ายๆ
    อย่างไรก็ตาม แม้ในสมัยก่อนเมื่อการจาริกแสวงบุญมีความยากลำบากไม่น้อย บรรดาปิตาจารย์และนักเขียนหลายท่านยังเขียนเตือนให้คริสตชนสำนึกว่า สิ่งสำคัญจริงๆในชีวิตคริสตชนคือการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างศักดิ์สิทธิ์ตามฐานะและหน้าที่ของตน นักบุญเยโรมเขียนไว้ว่า “ระยะทางไปสวรรค์นั้นเท่ากันเสมอไม่ว่าจะไปจากเกาะบริเทนหรือจากกรุงเยรูซาเล็ม” ท่านยังบอกอีกว่าถึงแม้การไปจาริกแสวงบุญอย่างดีและศรัทธาจะเป็นวิธีการสำคัญประการหนึ่งเพื่อบรรลุถึงความรอดพ้น แต่ก็มิใช่วิธีที่จำเป็น จึงไม่เป็นการถูกต้องที่ผู้หนึ่งจะละทิ้งหน้าที่จำเป็นของตนเพื่อไปจาริกแสวงบุญ โดยเฉพาะถ้าเขาเป็นนักพรต ถึงกระนั้นการจาริกแสวงบุญก็ยังเป็นกิจกรรมที่มีผู้นิยมปฏิบัติกันตลอดมา
    สรุปแล้วในทางปฏิบัติก็น่าจะกล่าวว่าถ้าใครสามารถไปจาริกแสวงบุญยังสถานที่ที่ตนมีความศรัทธาเลื่อมใสเป็นพิเศษได้โดยไม่ละเลยหน้าที่จำเป็นของตนและไม่เป็นผลเสียหายแก่ผู้ใด ก็น่าจะทำได้อย่างอิสระแม้จะมีจุดประสงค์รองอื่นแทรกเข้ามาด้วยก็ตาม แต่ถ้าเพื่อทำเช่นนี้เขาจะต้องละทิ้งหน้าที่จำเป็นของตนหรือทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน การจาริกแสวงบุญก็คงไม่น่าสนับสนุนเท่าไรนัก

รำพึงพระวาจาประจำวัน

วันศุกร์ สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 14:1-6) เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ใจของท่านทั้งหลายจงอย่าหวั่นไหวเลย จงเชื่อในพระเจ้า และเชื่อในเราด้วย ในบ้านพระบิดาของเรา มีที่พำนักมากมาย ถ้าไม่มี...
วันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา (ฉลองนักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสาร) พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก (มก 16:15-20) เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ...
วันพุธ สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 12:44-50) เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสเสียงดังว่า “ผู้ที่เชื่อในเรา ไม่ได้เชื่อในเราเท่านั้น แต่ยังเชื่อในพระองค์ผู้ทรงส่งเรามาด้วย ผู้ที่เห็นเรา ก็เห็นพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา เราเข้ามาในโลกเป็นแสงสว่าง...

Don't be afraid

E-Book แผนกคริสตศาสนธรรม อัคสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

สื่อการสอน เกมคำสอน เกมพระคัมภีร์ ออนไลน์

ความสุขแท้จริง 8 ประการ สำหรับครูคำสอน
สื่อการสอน คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ
สื่อการสอน คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ
คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ สำหรับอัตลักษณ์การศึกษาคาทอลิก คุณค่าพระวรสาร คือ คุณค่าที่พระเยซูเจ้าสั่งสอน และเจริญชีวิตเป็นแบบอย่างแก่บรรดาสานุศิษย์และประชาชน...
สื่อการเรียนการสอน เรื่อง อุปมาของพระเยซูเจ้า
สื่อการเรียนการสอน เรื่อง อุปมาของพระเยซูเจ้า
อุปมาเป็นเรื่องราวสั้นๆ ชวนคิด ที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าให้ประชาชนฟัง เพื่อสอนพวกเขาเกี่ยวกับพระเจ้าและหนทางไปสวรรค์
สื่อการเรียนการสอน เรื่อง "คำสอนของพระเยซูเจ้า"
สื่อการเรียนการสอน เรื่อง
แผนภูมิความรู้ ความสอนของพระเยซูเจ้า ความเชื่อและการรับศีลล้างบาป ความสุขแท้จริง การเป็นแบบอย่างที่ดี การรักศัตรู การภาวนา ความไว้วางใจในพระเจ้า...

คำสอนสำหรับเยาวชน YOUCAT

222. อาจโปรดศีลมหาสนิทให้กับผู้ที่มิใช่คริสตชนด้วยหรือ ศีลมหาสนิท เป็นการแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระกายของพระคริสตเจ้า การเป็นของพระศาสนจักรคาทอลิก บุคคลนั้นต้องได้รับศีลล้างบาปในพระศาสนจักร มีส่วนร่วมในความเชื่อของพระศาสนจักร ดำเนินชีวิตร่วมกันกับพระศาสนจักร จะเป็นความขัดแย้งกันถ้าพระศาสนจักรจะเชิญผู้ที่ยังไม่มีส่วนร่วมในความเชื่อ และยังไม่ดำเนินชีวิตตามพระศาสนจักรเข้ามารับศีลมหาสนิท จะเป็นความเสียหายของความน่าเชื่อถือของเครื่องหมายแห่งศีลมหาสนิท (1398...
221. ศีลมหาสนิทเปลี่ยนแปลงเราอย่างไร ทุกครั้งที่รับศีลมหาสนิทยิ่งทำให้ฉันเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ทำให้ฉันเป็นสมาชิกที่มีชีวิตชีวาของพระกายพระคริสตเจ้า ฟื้นฟูพระหรรษทานที่ฉันได้รับในศีลล้างบาป และศีลกำลัง และสร้างป้อมปราการให้ฉันในการต่อสู้กับบาป (1391-1397,1416)
220. ในการรับศีลมหาสนิทต้องเตรียมตัวอย่างไร ผู้ที่ต้องการรับศีลมหาสนิทต้องเป็นคาทอลิก ถ้าเขามีบาปหนักในมโนธรรมของเขา สิ่งแรกคือเขาต้องไปสารภาพบาป ก่อนเข้าไปสู่พระแท่นผู้นั้นควรคืนดีกับเพื่อนบ้านของตน (389 , 1417) จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน ในภาคปฏิบัตินั้นจะรับประทานอะไรไม่ได้เลยอย่างน้อย 3...

กิจกรรมพระคัมภีร์

เดินตามกฎ
เดินตามกฎ
เดินตามกฎ เรื่อง กฎต่างๆ พระคัมภีร์ โยชูวา 1:7-8 ภาพรวม เด็กๆ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ ในเกม และเรียนรู้ถึงคุณค่าของการปฏิบัติตามกฎต่างๆ ในชีวิต อุปกรณ์ ปากกาเส้นใหญ่สีดำ เทปแถบกาว และกระดาษสีแดง 5 แผ่น สีเขียว 10 แผ่น วาดเครื่องหมายหยุดไว้บนกระดาษสีแดงแต่ละแผ่น และวาดลูกศรลงบนกระดาษสีเขียวแต่ละแผ่น ประสบการณ์ ให้เด็กๆ...
ดูซิ เห็นไหม
ดูซิ เห็นไหม
ดูซิ เห็นไหม เรื่อง ยืนยันต่อผู้อื่น พระคัมภีร์ สุภาษิต 16:24 ภาพรวม เด็กๆ พบสิ่งดีในผู้อื่นจากการเรียนรู้จักสิ่งดีในตนเอง อุปกรณ์ ทอฟฟี่ ดินสอ การ์ด 3 x 5 นิ้ว (2 เท่าของจำนวนเด็ก) ประสบการณ์ บอกเด็กๆ ว่าเรากำลังมองหาความดีในผู้อื่น ครูแจกดินสอและกระดาษการ์ด 3...

ประมวลภาพกิจกรรม

พิธีเอฟฟาธา ฟื้นผู้จิตใจผู้เตรียมเป็นคริสตชน ปี 2024
พิธีเอฟฟาธา ฟื้นผู้จิตใจผู้เตรียมเป็นคริสตชน ปี 2024
🙏 "เอฟฟาธา แปลว่า จงเปิดเถิด" 🙏 วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2024 แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัด "พิธีเอฟฟาธา" และฟื้นฟูจิตใจผู้เตรียมเป็นคริสตชน ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก และห้องประชุมชั้นใต้ดิน (สำนักมิสซัง) ในกฤษฎีกาสมัชชาใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย...
ค่ายคำสอนลูกแม่พระ ปี 2024
ค่ายคำสอนลูกแม่พระ ปี 2024
🎊 “ท่องโลกพระคัมภีร์”🎊 วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2024 ทีมคำสอนสัญจรได้ไปกิจกรรมพิเศษของค่ายคำสอนลูกแม่พระ ให้กับเด็กนักเรียนคำสอน วัดแม่พระฟาติมาดินแดง กว่า 50 คน ในหัวข้อ “ท่องโลกพระคัมภีร์” วันนี้ เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของพระคัมภีร์ตั้งแต่พันธสัญญาเดิมเรื่อยมาจนถึงพันธสัญญาใหม่ ผ่านทางวีดีโอ ควบคู่ไปกับการเติมคำในช่องว่าง และยังได้ทำกิจกรรมเพื่อช่วยให้จดจำชื่อหนังสือพระคัมภีร์ได้มากขึ้น...

สวดสายประคำ

สายประคำทำให้ความเชื่อเข้มแข็งขึ้น
สายประคำทำให้ความเชื่อเข้มแข็งขึ้น ตลอดประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรคาทอลิก พระสันตะปาปาและนักบุญจํานวนมากสนับสนุนให้สวดสายประคํา เมื่อเราเริ่มเข้าใจและซาบซึ้งในสายประคําและสวดบ่อยขึ้น เราจะเห็นความหมายที่แท้จริงของการรําพึงภาวนา เราเริ่มเห็นคุณค่าว่าคําภาวนานั้นไม่เพียงแต่ถึงพระนางมารีย์...
ทำไมชาวคาทอลิกจึงสวดสายประคำ
ทำไมชาวคาทอลิกจึงสวดสายประคำ (The Rosary)การสวดบทภาวนาเดียวกันซ้ำหลายๆ ครั้ง เป็นวิธีปฏิบัติในบางศาสนา เพราะคิดว่าการสวดภาวนาซ้ำไปซ้ำมาจะได้ผลดีกว่า...

ช่วงเวลาสั้นๆ กับพระเจ้า

วงล้อ
พระเจ้าตรัสอะไรกับท่านในวันนี้ พระ​วาจา​ของ​พระองค์​เป็น​โคม​ส่อง​ทาง​ของ​ข้าพ​เจ้า เป็น​แสง​สว่าง​ส่อง​ทางเดิน​ให้​ข้าพ​เจ้า (สดด 119:105) ภาวนาวอนขอความสว่างจากพระองค์ แล้วหมุนวงล้อ...
วงล้อ พระวาจาหนุนใจในเหตุการณ์ต่างๆ ของชีวิต
ในชีวิตประจำวัน เราจะพบความเศร้า ความกลัว ปัญหา ความทุกข์ยาก ความไม่สบายใจ ความรู้สึกผิด ความหดหู่ ถูกทดลอง เจ็บป่วย...

คำถามที่เด็กๆ อยากรู้เกี่ยวกับพระเจ้า

Messiah
พระเมสสิยาห์ คำว่า พระเมสสิยาห์ เป็นภาษาฮีบรูที่ใช้เรียกพระคริสต์ ซึ่งเปลว่า...
Redeemer
พระผู้ไถ่ เป็นพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ที่หมายถึงว่า พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อไถ่เราให้รอดพ้นจากบาป
tomb
อุโมงค์ฝังศพ คือสถานที่ใช้ฝังศพผู้ตาย อุโมงค์ฝังพระศพของพระเยซูเจ้านั้นมีลักษณะเป็นโพรงหิน

ประวัตินักบุญ

25 เมษายน ฉลองนักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสาร
25 เมษายน ฉลองนักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสาร (St. Mark, Evangelist, feast) มีความเห็นพ้องต้องกันโดยทั่วไปว่า ชื่อของ มาระโก ที่มีกล่าวไว้ในหนังสือกิจการอัครสาวก...
25 มีนาคม สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์
วันที่ 25 มีนาคม สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ ( The Annunciation of the Lord, solemnity )...
19 มีนาคม  สมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี
วันที่ 19 มีนาคม สมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี (St. Joseph, Spouse of the Blessed Virgin...
17 มีนาคม  ระลึกถึงนักบุญปาตริก พระสังฆราช  (St. Patrick, Bishop, memorial)
วันที่ 17 มีนาคม ระลึกถึงนักบุญปาตริก พระสังฆราช (St. Patrick, Bishop, memorial) นักบุญปาตริกเป็นนักบุญยิ่งใหญ่และเป็นองค์อุปถัมภ์ของประเทศไอร์แลนด์ ท่านเป็นบุตรชายของ Calpurnius...

CCBKK Channel

youtube1

Kamson TikTok

tiktok

Facebook CCBKK

วันละหนึ่งนาทีกับนักบุญโยเซฟ

St.Joseph 2021

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

ccc thai web

บทอ่านและบทมิสซา

ordomissae

พระคัมภีร์คาทอลิก

WOPTMR80W7YC0H90QTK7LZC1E1L2WM

บทเพลงศักดิ์สิทธิ์

angels-5b

วิชาคริสต์ศาสนา + จริยศึกษา

poster 2023 moral re

------------------------------------------

poster 2023 christianity re

สถิติเยี่ยมชม (22-2-2012)

วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ทั้งหมด
2205
15633
71202
280735
306218
36024457
Your IP: 18.116.90.141
2024-04-26 04:05

สถานะการเยี่ยมชม

มี 204 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์