ศีลอภัยบาป (Penance)
บาปทำให้อยู่ห่างไกลจากพระเจ้า
ผู้สำนึกผิดจะพบกับสันติภาพที่เขาแสวงหาในการใช้โทษบาปและการอภัยบาป

    ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์ทราบดีว่าตนนั้นเป็นคนบาป ในขณะที่เขาปรารถนาที่จะได้ชีวิตที่ปราศจากมลทิน ซึ่งพระเจ้าสอนว่ามันมีทางที่จะเป็นไปได้ ตัวเขาเองต้องต่อสู้กับการประจญมากมายจนถึงกับต้องพ่ายแพ้ต่อการประจญในบางครั้ง ดังนั้นทุกศาสนาจึงมีพิธีกรรมการชำระตนให้บริสุทธิ์ เช่น การชำระตน การล้างบาป แม้กระทั่งการใช้โทษบาปอย่างเปิดเผยซึ่งบางครั้งก็ใช้รูปแบบที่ค่อนข้างผิดปกติหน่อย

    สำหรับความเชื่อคาทอลิกแล้ว เราเชื่อว่ามีบาปกำเนิดซึ่งได้รับการอธิบายแบบเปรียบเปรยในหน้าแรกๆของหนังสือปฐมกาล ในการรับเอาธรรมชาติมนุษย์ พระผู้ไถ่ (Redemptor ซึ่งมาจากคำว่า redimere ในภาษาละติน ซึ่งแปลว่า “ซื้อคืนมา” ซึ่งมักจะเกี่ยวกับการจ่ายค่าไถ่เพื่อจะให้เขาได้อิสรภาพคืนมา) พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จมาเพื่อไถ่เราคืนมา ความชั่วทำงานอยู่ในโลกนี้ (๑) นั่นคือ “ปีศาจ”ผู้แบ่งแยกเรา โลกพร้อมทั้งประวัติศาสตร์ – ตัวอย่างเช่นของศตวรรษที่กำลังสิ้นสุดลงนี้ – ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามนุษย์เรานั้นวิปริตสักแค่ไหนและความวิปริตอันนี้ทำให้เราต้องทนทุกข์สักเพียงไร
    ศีลล้างบาปชำระล้างบาปกำเนิด และศีลอภัยบาป (หรือการคืนดี) ชำระเราให้พ้นจากบาปที่เราเองได้กระทำในเวลาต่อมา พระเยซูทรงยืนยันความจริงข้อนี้ในพระวรสารในขณะที่ทรงรักษาชายที่เป็นง่อยว่าพระองค์ทรงได้รับอภิสิทธิ์จากพระเจ้าให้ยกบาปได้ (๒) ในเย็นวันที่พระองค์ทรงกลับคืนชีพอำนาจนี้ได้ถูกถ่ายโอนไปยังบรรดาอัครสาวก(๓) และต่อจากบรรดาอัครสาวกไปอีกไปสู่ผู้ที่พวกท่านได้เลือกให้มาดำเนินงานของพวกท่านต่อไป ก่อนที่บาปจะได้รับการอภัย พวกเขาจะต้องมีความทุกข์ถึงบาป นั่นก็คือ การแสดงความเสียใจที่ได้ทำบาป แล้วไปสารภาพบาปต่างๆของเขาแก่พระสงฆ์ซึ่งจะอภัยบาปแก่เขาโดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องทำกิจใช้โทษบาปซึ่งโดยปกติ จะเป็นการสวดภาวนาอะไรบางอย่าง ความทุกข์ถึงบาป การสารภาพบาป และการใช้โทษบาปเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อจะได้รับการอภัยบาป
    พระศาสนจักรเชิญชวนให้คริสตชนรับศีลอภัยบาปอย่างน้อยปีละครั้งในกำหนดปัสกา “การทำปัสกา” คือการแก้บาปและการรับศีลมหาสนิท ในชีวิตประจำวันของเรานั้นเราต้องกิน ต้องดื่ม ต้องอาบน้ำล้างตัว ชีวิตฝ่ายจิตก็เช่นเดียวกัน ศีลมหาสนิทเลี้ยงดูเรา ศีลอภัยบาปชำระล้างเรา และเราควรรับศีลสองประการนี้บ่อยๆ ในวัดโดยทั่วๆไปนั้นการแก้บาปกระทำกันในที่แก้บาปซึ่งมักทำด้วยแผ่นไม้ วางไว้ทางเดินใกล้ๆที่นั่งในวัด แต่ว่าเราจะไปรับศีลแก้บาปในห้องก็ย่อมได้ถ้าหากจำเป็นที่จะต้องการจะมีการเสวนากับพระสงฆ์ด้วย


(๑)    “ความชั่วร้ายกำลังทำงานอยู่แล้วอย่างซ่อนเร้น.....เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงส่งพลังความหลงผิดมาให้ เพื่อเขาจะได้เชื่อความเท็จ ดังนั้น ทุกคนที่ไม่เชื่อความจริง แต่พึงพอใจกับความชั่วร้ายจะถูกทัณฑ์” (2ธส.2:7:11-12)
(๒)    มธ.9:1-8
(๓)    “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยน.20:22-23)