แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

II. ปรีชาญาณเป็นพระพรที่พระเจ้าประทานแก่อิสราเอล

    9อิสราเอลเอ๋ย จงฟังบทบัญญัติที่ให้ชีวิต
    จงตั้งใจฟังเถิด จะได้เรียนรู้ความรอบคอบ
    10อิสราเอลเอ๋ย ทำไมท่านจึงต้องมาอยู่ในแผ่นดินของศัตรู
    ต้องแก่ชราลงในแผ่นดินของชนต่างชาติ
    11ทำไมท่านจึงเป็นมลทินอยู่กับคนตายb
    และถูกนับว่าเป็นคนหนึ่งที่ต้องไปอยู่ในแดนมรณะ
    12ท่านได้ละทิ้งบ่อเกิดแห่งปรีชาญาณ
    13ถ้าท่านเดินในหนทางของพระเจ้า
    ท่านก็คงจะมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขตลอดไป
    14จงเรียนรู้ว่าความรอบคอบอยู่ที่ใด
    พละกำลังอยู่ที่ใด ปัญญาอยู่ที่ใด
    ท่านจะได้เข้าใจอีกว่าอายุยืนและชีวิตอยู่ที่ใด
    แสงสว่างของดวงตาและสันติสุขอยู่ที่ใดด้วย
    15ผู้ใดเล่าค้นพบที่พำนักของปรีชาญาณ
    ผู้ใดเล่าเข้าไปถึงคลังcแห่งปรีชาญาณ
    16บรรดาผู้นำชนชาติต่างๆอยู่ที่ใด
    บรรดาผู้ควบคุมสัตว์ร้ายที่อยู่บนแผ่นดินอยู่ที่ใด
    17ผู้ที่ชอบล่านกเป็นการหย่อนใจอยู่ที่ใด
    ผู้สะสมเงินทองที่ทุกคนอยากได้และไม่มีวันเพียงพอ อยู่ที่ใด
    18บรรดาช่างฝีมือที่ทำเครื่องเงิน
    ปิดบังความชำนาญของตนไว้ไม่ให้ผู้ใดรู้ อยู่ที่ใด
    19คนเหล่านี้ทุกคนหายสาบสูญไปอยู่ในแดนมรณะ
    คนอื่นก็ขึ้นมาแทนที่ของเขา
    20อนุชนรุ่นแล้วรุ่นเล่าแลเห็นแสงสว่าง
    พำนักอาศัยอยู่บนแผ่นดิน
    แต่เขาก็ไม่รู้จักหนทางของปรีชาญาณ
    21เขาไม่ได้แสวงหาหนทางของปรีชาญาณ จึงไม่ได้พบ
    บุตรหลานของเขายิ่งอยู่ห่างจากหนทางของบรรพบุรุษd
    22ไม่มีผู้ใดได้ยินคนพูดถึงปรีชาญาณในแผ่นดินคานาอัน
    ไม่มีผู้ใดเห็นปรีชาญาณในแคว้นเทมาน
    23บรรดาบุตรหลานของนางฮาการ์ที่แสวงหาความรู้บนแผ่นดิน
    บรรดาพ่อค้าชาวมีเดียนeและเทมาน
    บรรดานักเล่านิทานและผู้แสวงหาความรู้
    ก็ไม่พบหนทางไปสู่ปรีชาญาณ
    หรือไม่คิดจะแสวงหาหนทางนั้นด้วย
    24อิสราเอลเอ๋ย บ้านของพระเจ้าf ยิ่งใหญ่เพียงใด
    สถานที่ที่ทรงครอบครองกว้างใหญ่เพียงใด
    25กว้างใหญ่และไม่มีขอบเขต
    ทั้งสูงและวัดไม่ได้
    26ที่นั่นเกิดยักษ์มีชื่อเสียงในสมัยโบราณ
    มีรูปร่างสูงใหญ่และเชี่ยวชาญการสงคราม
    27แต่พระเจ้าไม่ทรงเลือกคนเหล่านี้
    ไม่ประทานหนทางไปสู่ปรีชาญาณให้เขา
    28เขาจึงต้องพินาศเพราะขาดปรีชาญาณ
    เขาต้องตายเพราะความโง่เขลา
    29ผู้ใดเล่าขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อนำปรีชาญาณลงมา
    ผู้ใดเล่านำปรีชาญาณลงมาจากเมฆ
    30ผู้ใดเล่าข้ามทะเลไปพบปรีชาญาณ
    ผู้ใดเล่าจะซื้อปรีชาญาณด้วยทองคำบริสุทธิ์
    31ไม่มีผู้ใดรู้จักหนทางไปสู่ปรีชาญาณ
    ไม่มีผู้ใดสนใจแสวงหาหนทางนั้น
    32แต่พระเจ้าทรงทราบทุกสิ่ง ทรงรู้จักปรีชาญาณ
    ทรงค้นพบปรีชาญาณด้วยพระปัญญา
    พระองค์ทรงตั้งแผ่นดินให้คงอยู่ตลอดไป
    ทรงบันดาลให้มีสัตว์สี่เท้าอยู่เต็มแผ่นดิน
    33เมื่อทรงส่งแสงสว่าง แสงสว่างก็ไป
    เมื่อทรงเรียกแสงสว่างขึ้นมา แสงสว่างก็เชื่อฟังจนตัวสั่น
    34ดวงดาวส่องแสงจากที่ซ่อนด้วยความยินดี
    35พระองค์ทรงเรียกดวงดาว ดวงดาวก็ตอบว่า “พวกเราอยู่ที่นี่”
    แล้วส่องแสงด้วยความยินดีสำหรับพระผู้สร้าง
    36พระองค์ผู้นี้คือพระเจ้าของเรา
ไม่มีผู้ใดเทียมเท่าพระองค์ได้
37พระองค์ทรงค้นพบหนทางทั้งหมดของปรีชาญาณ
พระองค์ประทานปรีชาญาณแก่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์
แก่อิสราเอล ประชากรที่ทรงรัก
38เพราะเหตุนี้ ปรีชาญาณจึงปรากฏบนแผ่นดิน
มาอยู่กับมวลมนุษย์g
4.    1ปรีชาญาณเป็นหนังสือข้อกำหนดของพระเจ้า
    เป็นธรรมบัญญัติที่ดำรงอยู่ตลอดไป
    ผู้ที่ยึดปรีชาญาณมั่นไว้ก็จะมีชีวิต
    ผู้ใดละทิ้งปรีชาญาณก็จะตาย
    2ยาโคบเอ๋ย จงกลับมารับปรีชาญาณไว้เถิด
    จงดำเนินในแสงสว่างของปรีชาญาณไปสู่ความรุ่งโรจน์
    3อย่าให้สิริรุ่งโรจน์ของท่านแก่ผู้อื่น
    อย่าให้อภิสิทธิ์ของท่านแก่ชนต่างชาติ
    4อิสราเอลเอ๋ย พวกเราช่างเป็นสุข
    เพราะพระเจ้าทรงเปิดเผยสิ่งที่พอพระทัยให้เรารู้