เรื่องราวของการแต่งงานและการหย่าร้างคาทอลิก
By DIANTHA PARKER JAN. 24, 2015

เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาทรงพบปะชาวคาทอลิกหย่าร้างนับล้านทั่วโลก ที่สับสนกับสถานะของพวกเขาในพระศาสนจักร    วาติกันเริ่มพิจารณาผู้ปฏิบัติศาสนาที่มีปัญหาศีลสมรส
            พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงวางแผนที่จะเสด็จเยือนครั้งแรกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายน เพื่อเข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับครอบครัว รู้สึกเป็นห่วงคาทอลิกที่หย่าร้าง พระองค์ทรงเริ่มอภิปรายอย่างมากเกี่ยวกับวิธีที่พระศาสนจักรสามารถเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อพวกเขา โดยไม่ต้องเปลี่ยนหลักคำสอนที่ประกาศให้การแต่งงานมีสภาพถาวรและไม่อาจยกเลิกได้
        มีการต่อสู้กันอย่างชัดเจน: เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ
พระศาสนจักร คือสภาพระสังฆราชแห่งประเทศเยอรมัน ต้องการให้พระศาสนจักรผ่อนคลายกฎระเบียบ เพื่อให้คาทอลิกที่หย่าร้างกลับไปใช้ชีวิตในพระศาสนจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใหรับศีลมหาสนิทได้ แม้ว่า พวกเขาจะแต่งงานอีกก็ตาม. พวกยึดธรรมประเพณีไม่ต้องการให้ยกเลิกการแต่งงาน (ศีลสมรส)ที่ได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้า และดังนั้น จึงไม่อาจต่อรองได้
            ในเดือนตุลาคม  พระสังฆราชจากทั่วโลกถกเถียงกันเกี่ยวกับการหย่าร้างในสมัชชาสภาพระสังฆราชเกี่ยวกับประเด็นครอบครัว    ในเดือนตุลาคมนี้ กลุ่มใหญ่ของพระสังฆราชจะประชุมในสมัชชาวาติกันที่สอง ที่จะตัดสินใจว่า จะแนะนำให้มีการเปลี่ยนแปลง. การตัดสินใจว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ ขึ้นกับสมเด็จพระสังฆราชฟรังซิส
          นักวิจัยกล่าวว่า  เมื่อมองดูจำนวนชาวคาทอลิกที่ล้มเหลวในชีวิตแต่งงานที่มีมาก  ประมาณร้อยละ 28 ของผู้ใหญ่คาทอลิกชาวอเมริกันที่หย่าร้าง ตามรายงานของศูนย์วิจัยประยุกต์ในการแพร่ธรรมที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์. อัตราหย่าร้างนั้นต่ำกว่าประชาชนทั่วไป แต่ก็มีถึง 11 ล้านคน
+
รายที่ 1 Juan Enriquez อายุ 41ปี
ดัลลัส ผู้กำกับการสำหรับบริษัทก่อสร้าง
ผมเกิดมาในประเทศเม็กซิโก และได้รับการเลี้ยงดูแบบคาทอลิก ได้อาศัยอยู่ที่นี่ 20 ปีมาแล้ว  ผมรีบแต่งงานครั้งแรกในปี 2009 และ อดีตภรรยาของผมยังเป็นคาทอลิก และเราก็หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการในปี 2011 ในขณะที่ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองที่ช่วยให้ผมมาทำความเข้าใจจุดยืนของพระศาสนจักรเกี่ยวกับการหย่าร้าง
              การเป็นคาทอลิกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม       และผมได้เริ่มกลับสู่พระศาสนจักรเมื่อเราพบกัน. แต่ผมไม่รู้จักความเชื่อของผม    ผมขอยกแรกการแต่งงานครั้งนั้นได้  ใช้เวลาสามเดือน  ด้วยการเริ่มอ่านเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ว่าสอนอะไรบ้าง การยกเลิกการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ ผมรู้ว่าผมต้องการโอกาสที่จะแต่งงานใหม่อาศัยพระศาสนจักร   และได้พบพบภรรยาคนที่สองที่วัดในปี 2012
              เธอได้รับเลี้ยงเยี่ยงคาทอลิก และแต่งงานอาศัยสภาพระสังฆราช. หากคุณเป็นคาทอลิกและแต่งงานกันในนิกายอื่น คุณต้องขออนุมัติจากพระศาสนจักรคาทอลิกก่อน                                                                                                                                                                                                               แต่เธอไม่ได้ทำ เหมือนผมเลย  เธอไม่เคยรู้ถึงความเชื่อของเธอ       
       การยกเลิกการแต่งงานใช้เวลานานกว่าผมทำ เราเพิ่งแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้ว และมองชีวิตที่มีความซับซ้อน เธอมีลูกชายติดมาจากการแต่งงานครั้งก่อน  และฉันก็มีลูกสาว 2 คน จากการแต่งงานครั้งแรกของผม และพวกเขาเป็นคาทอลิก ถ้าพระเจ้าโปรดประทานคาทอลิก เราจะเลี้ยงดูเขาเยี่ยงคาทอลิกด้วย
เราเห็นพระศาสนจักรเป็นมารดาที่ชาญฉลาดและสถาบันหนึ่งของพระเจ้า มิใช่มนุษย์. ผมไม่เห็นพระศาสนจักรเป็นชมรมหรือตำแหน่งที่สมาชิกต้องการ. คำสอนของพระศาสนจักรไม่เปลี่ยนแปลงแม้เวลาผ่านไป. ถ้าพวกเขาเริ่มต้นให้มุมมองใหม่แล้วพระศาสนจักรจะเริ่มพยายามที่จะทำให้สมาชิกพอใจ.  ผมไม่คิดว่า พระเจ้าทรงพระประสงค์สิ่งใด   ผมคิดว่า เราต้องเข้าใจคำสอนดีขึ้น.  ผมต้องการที่จะเป็นคาทอลิกที่รับผิดชอบ; ผมไม่ต้องการจำกัดตัวเองกับการปฏิบัติศาสนาด้วยการไปวัดวันอาทิตย์เท่านั้น.
ผมอ่านหนังสือมาก ฟังผู้อ่านในพิธี ผมมักมองหาจุดแตกต่างของมุมมอง

สำหรับผมแล้ว          มันเป็นความมหัศจรรย์หลังจากที่ 2,000 ปีที่ก่อตั้งพระศาสนจักรคาทอลิกยังคงตั้งอยู่ เป็นเวลาที่ทำบางสิ่งที่ถูกต้อง
+ รายที่ 2 ออสการ์      รามิเรซ 39
ฮอนโนลูลู, ผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรมยุทธวิธีทางทหาร
พระศาสนจักรไม่ได้ถูกบังคับให้ผมเติบโตขึ้นมาในเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา แต่หลังจากโรงเรียนมัธยมปลาย ผมเข้าบ้านเณร 5 ปีและถวายคำปฏิญาณ ผมลาอออกจากคณะ แต่ยังคงเป็นคาทอลิก
            ผมได้แต่งงานในวัดก่อนที่ผมไปเป็นทหารในอิรักในปี 2003 เป็นเวลา 2 ปี หลังจากผมกลับมา ผมรู้สึกขมขื่น ถึงแม้ผมและเป็นอย่างมากขมและน่าเบื่อ แต่ประสบการณ์นี้ทำให้ผมเป็นคาทอลิกที่เข็มแข็ง.  อดีตภรรยาของผมและผมก็กลายเป็นคาทอลิกที่กระตือรือร้นในพระศาสนจักร. แต่หลังจากแต่งงานสี่ปี เราหย่าร้างกัน.  หลังจากนั้น ผมก็รู้สึกแปลกแยกจากพระศาสนจักร และเมื่อมาแต่งงาน ผมคิดว่า "ไม่ จะไม่รับศีลสมรสอีก”.
         แต่เวลาเยียวยา ภรรยาของผมเป็นคาทอลิกและเรามีงานเลี้ยงแต่งงานที่งดงามในคาลิฟอร์เนียเดือนมีนาคม. มันเป็นเรื่องการแต่งงานครั้งแรกของเธอ  ผมต้องการแต่งงานตามกฎเบียบพระศาสนจักร ที่ภรรยาของผมสมควรได้รับ และพระเจ้าทรงประสงค์ให้เรามี
          ผมขอยกเลิกการแต่งงานครั้งแรกซึ่งใช้เวลา 2 ปีครึ่งจนถึงบัดนี้  พระสงฆ์ในการแต่งงานครั้งแรก คณะฟรังซิสกันที่ผมรู้จักมาหลายปี - พูดทันทีว่า “ให้เราช่วยคุณยกเลิกการแต่งงาน”
      ขณะที่เป็นคู่สมรส เราไปวัด และผู้พิพากษาเก่าเหล่านี้. พวกเขาบอกกับตัวเองว่า "โอ้ เราเป็นคู่สมรสที่ดี แต่พวกเขาไม่ได้รับศีลมหาสนิท." และ "มันไม่ใช่เรื่องของคุณ." แต่ฉันรู้ว่ามันสำคัญกับผมเช่นกัน
         ผมได้รับศีลมหาสนิท ปราศจากการบอกคนที่ผมหย่าร้าง ช่วงมืดมากในชีวิตของฉัน. นั่นคือ เมื่อผมต้องการพระศาสนจักร. อย่างน้อยที่สุด  ผมอยู่ที่นั่น ผมสัมผัสถึงการประทับอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผมรู้สึกผิดที่ทำเช่นนั้น เราตระหนักดีถึงข้อเท็จจริงว่า เรากำลังทำบาปด้วยการแต่งงานนอกพระศาสนจักร แต่เรากำลังทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อทำสิ่งต่างๆให้ถูกต้อง
+
http://www.nytimes.com/2016/04/09/world/europe/rather-than-rules-popes-document-gives-license-to-adapt.html?rref=collection%2Ftimestopic%2FFrancis&action=click&contentCollection=timestopics&region=stream&module=stream_unit&version=latest&contentPlacement=4&pgtype=collection