สมเด็จพระสันตะปาปาประทานสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ Straatnieuws ว่า "พระศาสนจักรสอนว่า ทุกคนมีสิทธิในการทำงาน มีบ้านและที่ดิน"
นครรัฐวาติกัน 6 พฤศจิกายน 2015 (VIS)

 หนังสือพิมพ์เยอรมันนี "Straatnieuws" ตีพิมพ์โดยผู้ไร้ที่อยู่อาศัย วันนี้ ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเมื่อวันที่ 27 เดือนตุลาคม 2015/2558
        บทความนี้ยังมีอยู่ในหนังสือพิมพ์รายวันอื่น ๆ ของชนิดเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนานาชาติของหนังสือพิมพ์ถนน (INSP) ซึ่งมีสมาชิก 113 คน.
      สิ่งพิมพ์นี้จะขายตรงแก่ผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัยให้พวกเขามีรายได้
         ต่อไปนี้เป็นข้อความที่ตัดตอนมาจากการสัมภาษณ์  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวเรื่องความยากจน
ผู้สัมภาษณ์: สารของพระศาสนจักรอะไรสำหรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ความเป็นปึกแผ่นของคริสตชนมีความสำคัญอะไร
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส "พ่อคิดถึง 2 สิ่ง  พระเยซูเจ้าเสด็จมาหาผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัยในโลก  โดยพระองค์ทรงทำองค์เองยากจน.  จากนั้น พระศาสนจักรมีความประสงค์ที่จะโอบกอดทุกคน และจะบอกว่ามีสิทธิที่จะมีบ้าน.
           ในขบวนการที่เป็นที่นิยมที่พวกเขาทำงานด้วย กำหนดคำภาษาสเปญ 3 “t” ได้แก่ : Trabajo (มีงานทำ) Techo (บ้าน) และ tierra (ที่ดิน)
             พระศาสนจักรสอนว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีทั้งสามสิ่ง "
ผู้สัมภาษณ์: พระองค์มักจะขอให้สนใจคนยากจนและผู้ลี้ภัย. พระองค์ไม่ทรงกลัวว่า วิธีนี้เป็นความเหนื่อยล้าในหัวเรื่องนี้ก่อให้เกิดขึ้นในสื่อมวลชนหรือในสังคมโดยทั่วไปหรือไม่?
          สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส: "เมื่อเรากลับไปที่หัวเรื่องที่ไม่น่าพอใจ,เพราะไม่พอใจที่จะพูดเรื่องนี้,เราถูกประจญที่จะพูดว่า  'นั่นเพียงพอแล้ว, เหนื่อยกับเรื่องนี”้ พ่อรู้สึกว่ายังเหนื่อยอยู่, แต่พ่อไม่กลัวหรอก. พ่อคงต้องพูดความจริง และบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเช่นไร "
ผู้สัมภาษณ์:พระองค์ไม่ทรงกลัวว่า การป้องกันความเป็นปึกแผ่นของพระองค์ และความช่วยเหลือคนไร้ที่อยู่อาศัยและคนยากจนอาจถูกการเมืองทำลาย?
       พระศาสนจักรควรพูดอย่างไรเพื่อจะมีอิทธิพล และในเวลาเดียวกัน ยังคงมีอิทธิพลภายนอกที่ผูกพันทางการเมือง?
       สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส: "มีเส้นทางที่นำไปสู่ความผิดในเรื่องนี้
พ่ออยากเน้นการประจญ 2 ประการ.
 พระศาสนจักรต้องพูดตามความเป็นจริงและโดยเป็นพยานถึงความยากจนของพระศาสนจักร. เป็นการไม่ดีที่ผู้มีความเชื่อคนหนึ่งพูดเกี่ยวกับความยากจนที่ไร้ที่อยู่อาศัย แต่ใช้ชีวิตเหมือนฟาโรห์. นี้เป็นสิ่งประจญประการแรก
        "การประจญประการที่สองคือการทำข้อตกลงกับรัฐบาล  ทำข้อตกลงสัญญาได้แต่ต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส. ยกตัวอย่างเช่น เราจัดการอาคารหลังนี้ แต่ต้องตรวจสอบบัญชีเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการคดโกงอยู่เสมอ การประจญที่จะทุจริตในชีวิตสาธารณะ,ทั้งทางการเมืองและศาสนา ...
       ครั้งหนึ่ง พ่อถามรัฐมนตรีในประเทศอาร์เจนตินาที่เป็นคนซื่อสัตย์ – คนที่ออกจากตำแหน่งของเขาเพราะเขาไม่สามารถเข้ากับมุมมองคลุมเคลือต่างๆ. พ่อถามเขาว่าจะทำได้กี่เปอร์เซนต์
                  เขาตอบว่า ร้อยละ 35 นั่นหมายความว่าร้อยละ 65 ทำไม่ได้ มันเป็นการคดโกง: ตัดส่วนหนึ่งสำหรับฉัน,ตัดส่วนอื่นสำหรับคุณ"
ผู้สัมภาษณ์: พระองค์ทรงใช้ชื่อนักบุญ
ฟรานซิส แห่งอัสซีซี แสดงว่าเลือกความยากจนสุดโต่งและแม้กระทั่งเรื่องการประกาศพระวรสารของท่านนักบุญองค์นี้. ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาและพระสังฆราชแห่งกรุงโรม ที่เคยรู้สึกอยู๋ภายใต้ความกดดันที่จะให้ขายสมบัติของพระศาสนจักรไหม?
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตอบว่า "นี่เป็นคำถามที่ง่าย  มันไม่ใช่สมบัติของพระศาสนจักร,แต่เป็นทรัพย์สมบัติของมนุษยชาติ. เช่น ถ้าพรุ่งนี้ฉันตัดสินใจที่จะประมูลรูปปั้นปีเอตา (Pieta) ของศิลปินไมเกิ้ล แองเยโล( Michelangelo) ที่พ่อไม่สามารถทำเช่นนี้ได้,เพราะมันไม่ใช่เป็นทรัพย์สินของพระศาสนจักร. แม้ว่าถูกเก็บไว้ในพระศาสนจักร แต่เป็นของมนุษยชาติ .สมบัติทั้งหมดของพระศาสนจักรก็เป็นเช่นนี้ด้วย.
      แต่เราได้เริ่มต้นที่จะขายของขวัญและสิ่งอื่น ๆ ที่มีคนมาให้พ่อ,และ Msgr. Krajewski จะนำไปขาย เขาเป็นเจ้าหน้าที่ด้านเมตตาสงเคราะห์ของพ่อ.  จากนั้น ได้ขายรถหรือพร้อมกับสลาก เรากำลังดำเนินการกับของที่มีอยู่เพื่อคนยากจน.   สิ่งไหนขายได้และเราก็จะขายเหล่านี้เลย"
ผู้สัมภาษณ์:พระองค์ทราบว่า มีคนคิดเช่นนี้กับความมั่งคั่งของพระศาสนจักรหรือไม่?
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส: "ใช่ ถ้าเราทำแคตตาล็อกของสินทรัพย์ของพระศาสนจักร,ดูเหมือนว่า พระศาสนจักรรวยมาก.    แต่เมื่อทำพันธสัญญาคอนคอร์(Concordat) กับอิตาลีในปี 1929 เรื่องปัญหากรุงโรม,รัฐบาลอิตาลีในเวลานั้น จะให้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงโรมแก่พระศาสนจักร. และจากนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาปิโอที่ 11 กล่าวว่าไม่รับ,พระองค์อยากได้ที่เพียงครึ่งตารางกิโลเมตร ที่จะรับประกันความเป็นอิสระของพระศาสนจักร. ปัจจุบัน เรายังยืนหยัดในหลักการนี้
"ใช่ น่าพิจารณาทรัพย์สินที่ดินของพระศาสนจักร แต่เราดำเนินงานในประเทศต่างๆที่ต้องการความช่วยเหลือ: โรงพยาบาลและโรงเรียน.ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานนี้ พ่อให้ส่งเงิน 50,000 ยูโรไปยังประเทศคองโก เพื่อสร้างโรงเรียน 3 โรงในหมู่บ้านยากจน,เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็ก. เพื่อบริหารงานได้ดีขึ้น,พ่อทำตามคำขอ,จึงส่งเงินไปให้พวกเขา"
ผู้สัมภาษณ์: เป็นไปได้ไหมที่จะจินตนาการถึงโลกที่ปราศจากคนยากจน?
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส: "พ่ออยากมีโลกที่ไม่มีคนยากจน. เราต้องต่อสู้เพื่อเรื่องนี้. แต่พ่อเป็นผู้มีความเชื่อคนหนึ่ง และพ่อรู้ว่าบาปมักอยู่ภายในตัวเรา. และมักมีความโลภของมนุษย์,จึงขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน,ความเห็นแก่ตัวที่สร้างความยากจน. ดังนั้น จะดูเหมือนยากที่พ่อจะจินตนาการถึงโลกที่ไม่มีคนยากจน. หากคุณคิดเกี่ยวกับเด็กที่ถูกเอาเปรียบด้วยการเป็นแรงงานทาส,หรือถูกทารุณกรรมทางเพศ. และรูปแบบอื่นของการแสวงหาผลประโยชน์อย่างอยุติธรรม เด็กถูกฆ่าตายสำหรับการค้าอวัยวะ.เป็นความโลภที่ฆ่าเด็กเพื่อเอาอวัยวะของพวกเขา.ดังนั้น พ่อจึงไม่ทราบว่า เราจะสามารถที่จะทำให้มีโลกที่ปราศจากความยากจน,เพราะบาปอยู่ที่นั่นเสมอ และนำไปสู่ความเห็นแก่ตัว. แต่เรามักจะต้องต่อสู้เพื่อเรื่องเสมอๆ ... "
+++