สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จกลับวาติกัน และตรัสกับนักข่าวในเครื่องบิน
นครรัฐวาติกัน , 27 พฤษภาคม 2014 ( VIS ) -
ตอนท้ายของการเดินทางของสมเด็จพระสันตะปาปาระหว่าง เที่ยวบินจากเทลอาวีฟไปยังกรุงโรม พระองค์ตรัสกับนักข่าวที่มาพร้อมกับพระองค์นานกว่า 40 นาทีบนเครื่องบิน การตอบคำถามของพระองค์เกี่ยวกับประเด็นต่างๆที่ไม่เพียงเกี่ยวกับการเสด็จเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ยังเกี่ยวกับการล่วงละเมิดผู้เยาว์ ผู้หย่าร้างที่แต่งงานใหม่ การเสด็จเยือนครั้งต่อไป การถือโสดของพระสงฆ์ และอื่น ๆด้วย. ข้อความข้างล่างนี้เป็นบทสรุปของคำตอบของพระองค์
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และการประชุมภาวนาในนครรัฐวาติกันกับชีมอน เปเรส และมาห์มุด อับบาส
ท่าทีที่แท้จริงมากที่สุดที่มีต่อผู้ที่เราไม่ได้คิดถึง, ผู้ที่มาหาเรา ข้าพเจ้าคิดเกี่ยวกับคำแนะนำระหว่างการเดินทาง แต่มีปัญหาเชิงตรรกวิทยา ( logistical problems), เพราะแต่ละปัญหาต้องพิจารณาเรื่องดินแดน,จึงไม่ใช่เรื่องง่าย. ดังนั้น ข้าพเจ้าเกิดความคิดนี้ขึ้นมากับการเชื้อเชิญครั้งนี้. เป็นการรวมตัวกันเพื่อการภาวนาไม่ใช่เพื่อไกล่เกลี่ย. เราจะภาวนากับประธานาธิบดีทั้งสองท่าน การภาวนาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเรื่องนี้. หลังจากนั้น แต่ละท่านจะกลับบ้าน. จะมีรับบี มุสลิมและข้าพเจ้าเอง.
การล่วงละเมิดผู้เยาว์
ในขณะที่มีพระสังฆราช 3 ท่านที่ถูกสอบสวน: ท่านหนึ่งพบว่าทำผิดและตอนนี้ เรากำลังพิจารณาโทษให้ออกจากตำแหน่ง. ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ...พระสงฆ์องค์หนึ่งทรยศต่อพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระสงฆ์องค์นี้นำเด็กชาย และเด็กหญิง ที่ไว้ใจว่าพระสงฆ์จะนำพวกเขาไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่กลับล่วงละเมิดพวกเขา. เป็นเรื่องร้ายแรงมาก. เหมือนกับการร่วมพิธีมิสซาปีศาจ. แทนที่ท่านจะนำพวกเขาไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับนำพวกเขาไปสู่ปัญหาที่คงอยู่ตลอดชีวิตของพวกเขา. ในสองสามวันนี้ จะมีพิธีมิสซาฯที่อาคารโดมุส ซังตา มาร์ธากับผู้รอดจากการละเมิด, แล้วประชุมกับพวกเขา...แต่เราต้องทำเรื่องนี้ต่อไปด้วยความอดทน !
สันติสุขที่ยั่งยืนตลอดไปในกรุงเยรูซาเล็ม
พระศาสนจักรคาทอลิกมีจุดยืนที่มุมมองทางศาสนา :กรุงเยรูซาเล็ม จะเป็นเมืองแห่งสันติสุขสำหรับสามศาสนา. การเจรจาจะก่อให้เกิด มาตรการที่เป็นรูปธรรม. ข้าพเจ้าเห็นด้วยว่า บางที จะมีการเจรจาที่เมืองหลวงของรัฐใดรัฐหนึ่ง...แต่เรื่องเหล่านี้ เป็นสมมติฐาน, และข้าพเจ้าไม่ได้พิจารณาเองว่า สามารถที่จะกล่าวว่า เราควรจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง. ข้าพเจ้าเชื่อว่า จำเป็นที่จะเจรจากันด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ความเป็นพี่น้อง และความไว้วางใจที่ดีในเส้นทางของการเจรจา. ต้องใช้ความกล้าหาญที่จะทำเช่นนี้, และข้าพเจ้าสวดภาวนาว่า ผู้นำทั้งสองนี้ จะมีความกล้าหาญที่จะใช้เส้นทางนี้.ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวสู่ความสันติสุข
การถือโสดของพระสงฆ์
พระศาสนจักรคาทอลิกสากลมีพระสงฆ์ที่แต่งงานได้ เช่น คาทอลิกที่เป็นกรีก,คาทอลิกที่เป็นชาวอียิปต์,ผู้ที่ถือจารีตตะวันออก. การถือโสดไม่ได้เป็นปัญหาของข้อความเชื่อ, แต่เป็นกฎของชีวิตที่ข้าพเจ้าชื่นชอบมาก, และข้าพเจ้าเชื่อว่า เป็น ของขวัญสำหรับพระศาสนจักร. แต่เนื่องจาก ไม่ได้เป็นข้อความเชื่อ, ประตูมักเปิดอยู่เสมอ
ความสัมพันธ์กับพระศาสนจักรนิกายออร์โธดอกส์
พระอัยกาบาร์โธโลมิว และข้าพเจ้าสนทนากันเกี่ยวกับเอกภาพที่เราสร้างขณะที่เราเดินไปด้วยกัน. เอกภาพไม่ถูกสร้างได้การประชุมวิชาการเกี่ยวกับวิชาเทววิทยา. ท่านยืนยันว่า พระอัยกาอาเธนาโกรัส(Athenagoras) กล่าวถึงพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 " เราไปเบื้องหน้าด้วยกันอย่างสงบ และรวบรวมนักเทววิทยามาอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่งเพื่อพูดคุยกัน เพื่อเราจะเดินไปเบื้องหน้าในชีวิต" มีหลายสิ่งที่เราสามารถช่วยกันได้. ยกตัวอย่าง กับนิกายต่างๆ. ในหลาย ๆ เมืองในกรุงโรม, ผู้นับถือนิกายออร์โธดอกซ์ไปวัดคาทอลิก. สิ่งอื่นที่เรากล่าวถึง คือ สิ่งที่ควรพิจารณาในสภาสหกิจของนิกายออร์โธดอกซ์,คือวันสมโภชปัสกา เพราะเป็นสิ่งที่น่าขบขันที่จะพูดว่า “ พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพเมื่อไร พระคริสตเจ้ากลับคืนพระชนมชีพของข้าพเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว" ใช่ วันสมโภชปัสกาคือสัญลักษณ์ของเอกภาพ ... เรายังพูดมากมายเกี่ยวกับปัญหาระบบนิเวศ,และความต้องการที่จะทำงานร่วมกันในเรื่องนี้
การเสด็จเยือนครั้งต่อไปและปัญหาที่คริสตชนเผชิญในทวีปเอเชีย
เกี่ยวกับแผนการเสด็จเยือนทวีปเอเชีย ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อพบปะกับเยาวชนในเอเชีย,และต่อไป ในเดือนมกราคมหน้า การเดินทาง 2 วันในศรีลังกาและฟิลิปปินส์ พื้นที่ที่ถูกพายุใต้ฝุ่น. ปัญหาของการขาดอิสรภาพในการนับถือศาสนา ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆในทวีปเอเชียเท่านั้น แต่ยังประเทศอื่น ๆ ในโลก. ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีอิสรภาพในการนับถือศาสนา. บางประเทศมีการควบคุมระดับหนึ่ง.. บางประเทศนำมาตรการต่างๆ ที่นำไปสู่การเบียดเบียนอย่างจริงจังต่อผู้มีความเชื่อ. จึงมีมรณสักขีในสมัยของเรา. เป็นมรณสักขีคริสตชนทั้งคาทอลิกและผู้ที่ไม่ใช่คาทอลิก. มีสถานที่ต่างๆที่ห้ามสวมกางเขนหรือห้ามครอบครองพระคัมภีร์เป็นของตัวเอง รวมถึงการห้ามสอนคำสอนเด็ก
การสละตำแหน่งพระสันตะปาปาเพราะพระพลานามันอ่อนแอของพระสันตะปาปากิตติคุณ
ข้าพเจ้าจะทำสิ่งที่พระเจ้าตรัสให้ข้าพเจ้าทำ คือ การสวดภาวนา และการแสวงหาพระประสงค์ของพระองค์. แต่ข้าพเจ้าคิดว่า เรื่องพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ไม่ใช่เรื่องแปลก. เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีความเชื่อและทรงอ่อนน้อมถ่อมตนที่ทรงตัดสินพระทัยในเรื่องนี้. 70 ปีมาแล้ว ก็มีพระสังฆราชกิตติคุณ, ตอนนี้ก็มีหลายท่าน.
สิ่งใดจะเกิดขึ้นกับบรรดาพระสันตะปาปากิตติคุณ ข้าพเจ้าคิดว่า เราต้องมองพระองค์ในฐานะสถาบัน. พระองค์ทรงเปิดทางแก่ตำแหน่งพระสันตะปาปากิตติคุณ. จะมีท่านอื่นๆไหม พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบ. แต่ประตูนี้เปิดอยู่ ข้าพเจ้าคิดว่าพระสังฆราชแห่งโรมพระองค์นี้ทรงเห็นว่า พระพลานามัยของพระองค์ลดน้อยถอยลง – เพราะตอนนี้เราอายุมากกว่า – ก็เป็นปัญหาเดิมที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ทรงเคยเผชิญมา
การสถาปนาพระสันตะปาปาปีโอที่ 12
การเริ่มกระบวนการสถาปนานักบุญของพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 แต่ยังไม่มีอัศจรรย์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป
สภาสมัชชาพระสังฆราชเกี่ยวกับครอบครัวและผู้ที่หย่าร้างจะแต่งงานใหม่
สมัชชาพระสังฆราชในเดือนตุลาคมจะเกี่ยวกับครอบครัวและปัญหาที่มีอยู่; ความมั่งคั่งและสถานการณ์ปัจจุบัน.ข้าพเจ้าไม่ชอบข้อเท็จจริงที่ว่า คนจำนวนมากแม้กระทั่งภายในพระศาสนจักร กล่าวว่า จะมีสภาสมัชชาพระสังฆราชเกี่ยวกับผู้ที่หย่าร้างจะแต่งงานใหม่ ราวกับว่าเป็นไปได้ว่าถูกลดความสำคัญเป็นเพียงกรณีศึกษา แต่เป็นเรื่องที่กลายเป็นวิกฤตทั่วโลก. นั่นคือ คนหนุ่มสาวไม่ต้องการที่จะแต่งงานแล้ว, หรือเพียงแค่ต้องการที่จะอยู่กินด้วยกัน. การแต่งงานจึงอยู่ในภาวะวิกฤต และดังนั้นจึงเป็นวิกฤตของครอบครัวด้วย. ปัญหาการอภิบาลครอบครัวกว้างมาก. สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ตรัสถึงครอบครัวสามครั้ง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการศึกษาความเชื่อกับบุคคลที่จะแต่งงาน และชี้แจงว่าผู้ที่หย่าแล้วถูกขับจากพระศาสนจักร และบ่อยครั้ง ราวกับว่าพวกเขาถูกกระทำเช่นนั้น
การปฏิรูปโรมันคูเรีย
ตอนนนี้ มีการพิจารณาสภาที่ประกอบด้วยพระคาร์ดินัล 8 องค์กำลังศึกษาตามสังฆธรรมนูญ" “พระชุมพาแสนดี” และกฎระเบียบของโรมันคูเรีย. จะมีที่ปรึกษาหลายคนร่วมกับคูเรีย และยังคงศึกษาบางประเด็นด้วย เช่น หน่วยงานบริหารที่จะทำการปรับปรุงองค์กรต่างๆ. ประเด็นสำคัญหนึ่งคือองค์กรด้านเศรษฐกิจ, และดังนั้น จำเป็นที่จะทำงานร่วมกับเลขาธิการของนครรัฐวาติกัน... อุปสรรคต่างๆ คือการพบปะในขั้นตอนของเรื่องนี้.การวางแผนด้วยการเข้าถึงปัญหา การเชิญชวน เป็นสิ่งสำคัญมาก. มีบางคนที่ไม่เห็นสิ่งนี้อย่างชัดเจน. แต่ต้องปฏิรูปสิ่งเหล่านี้. แต่ข้าพเจ้าพอใจอยู่กับความจริง.
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.visnews.org และ www.vatican.va