จงเข้าถึงคนที่กำลังตกในสถานการณ์ที่เลวร้ายและพูดกับเขาว่า “คุณสามารถลุกขึ้นยืนได้อีก”


 นครรัฐวาติกัน, 25 กรกฎาคม 2013 (VIS)


 เวลา 18:30 น.(เวลาท้องถิ่น) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสde Deus (St Francis of Assisi of the Providence of God Hospital) สมาชิกฆราวาสคณะฟรังซิสกัน ชั้น 3  ซึ่งเป็นศูนย์บำบัดผู้ติดสุราและผู้ติดยาเสพติด และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์และศัลยกรรมแบบให้เปล่าแก่ชนพื้นเมือง. โรงพยาบาลมีเตียงผู้ป่วยประมาณ 500 เตียงและบริหารจัดการโดยสมาคมช่วยเหลือผู้ไร้บ้าน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดยภราดาคณะฟรังซิสกัน. เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จมาถึงสถานที่นี้ ผู้อำนวยการสมาคมและเลขาธิการแห่งรัฐเพื่อสุขภาพถวายการต้อนรับ, แล้วพระองค์เสด็จไปที่วัดน้อย ซึ่งพระองค์ทรงได้รับการต้อนรับด้วยเสียงเพลง การภาวนา การต้อนรับและการเป็นพยานที่ลึกซึ้งของผู้ป่วยทั้งสอง

"หลังจากพ่อไปเยือนสักการสถานพระแม่แห่ง Aparecida แล้ว พระเจ้าทรงพระประสงค์ให้พ่อเดินทางไปโรงพยาบาลฟรังซิสแห่งอัสซีซีซึ่งเป็นสักการสถานแห่งความทุกข์ทรมานของมนุษย์

สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสต่อไปเกี่ยวกับการกลับใจของนักบุญฟรังซิสที่ทิ้งความร่ำรวยและความสะดวกสบายฝ่ายโลกเพื่อกลายเป็นคนยากจนในหมู่คนยากจน. ท่านนักบุญเข้าใจว่า ความชื่นชมยินดีและความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้มาจากรูปเคารพของโลกนี้ – ซึ่งก็คือวัตถุสิ่งของและทรัพย์สินของพวกเขา - แต่จะพบสองสิ่งนี้ในติดตามพระเยซูคริสตเจ้าและรับใช้ผู้อื่นเท่านั้น"

สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเน้นย้ำในพระโอวาทว่า “เราทุกคนจะต้องเรียนรู้ที่จะโอบกอดผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านั้น ตามที่นักบุญฟรังซิสเคยทำมาแล้ว "มีสถานการณ์มากมายในประเทศบราซิลและในทั่วโลก,ที่ต้องการความใส่ใจ,การดูแลและความรัก,เหมือนการต่อสู้กับการใช้สารเคมี. บ่อยครั้ง ความเห็นแก่ตัวที่ยังมีอยู่ในสังคมของเรา.  มี ‘ผู้ทำงานให้ความตาย' มากมายจริงๆที่ทำตามตรรกะแห่งอำนาจและเงิน! ความหายนะของการลักลอบค้ายาเสพติด, ทำให้เกิดความรุนแรงและหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ทรมานและความตาย, สรุปแล้ว ขอให้สังคมต้องแสดงความกล้าหาญออกมา.  การลดการแพร่กระจายและอิทธิพลของการติดยาเสพติดจะไม่บรรลุผล ถ้าปล่อยให้ใช้ยาเสพติดอย่างเสรีเท่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ในส่วนต่างๆของประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกา. ยิ่งกว่านั้น จำเป็นที่จะเผชิญกับปัญหาการใช้ยาเหล่านี้.โดยส่งเสริมความยุติธรรมมากขึ้น,ให้ความรู้แก่คนหนุ่มสาวในเรื่องค่านิยมที่สร้างขึ้นในชีวิตสังคม. ร่วมทางกับผู้ที่อยู่ในความยากลำบากและให้ความหวังสำหรับอนาคตแก่พวกเขา. เราทุกคนจำเป็นต้องดูแลกันและกันด้วยดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักของพระคริสตเจ้า,และเรียนรู้ที่จะโอบกอดผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ,เพื่อที่จะแสดงความสนิทสนม,ความรักฉันพี่น้องและความรักของเรา"

สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสต่อไปว่า  "เราต้องจับมือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ คนที่ตกอยู่ในมืดมน หาที่พึ่งไม่ได้, บางที แม้กระทั่งไม่รู้วิธีด้วยซ้ำ เราจึงต้องพูดกับเขาหรือเธอว่า “คุณสามารถลุกขึ้น  ยืนได้.  มันเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นไปได้ถ้าคุณต้องการจะทำ.
เพื่อนรัก 

พ่อปราถนาที่จะพูดกับคุณแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับทุกคนที่ไม่กล้าที่จะเริ่มเดินทางของเรา: คุณต้องมีความต้องการที่จะยืนขึ้น; นี่เป็นเงื่อนไขที่ขาดไม่ได้! คุณจะพบกับมือยื่นออกมาพร้อมที่จะช่วยคุณ, แต่ไม่มีใครสามารถที่จะยืนในตำแหน่งของคุณได้. แต่คุณไม่เคยอยู่โดดเดี่ยว! พระศาสนจักรและผู้คนจำนวนมากอยู่ใกล้กับคุณ. จงมองไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ. การเดินทางของคุณยาวนานและยากลำบาก แต่จงมองไปข้างหน้า เพราะมีอนาคตที่มั่นคง. ขัดแย้งกับภาพอนาคตที่เลือนลางที่ลวงตาของรูปเคารพแห่งโลกนี้, อย่างไรก็ตาม ให้แรงผลักดันและความแข็งแกร่งใหม่ต่อชีวิตประจำวันของเรา”

พระองค์ทรงเร่งเร้าทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมว่า “อย่าปล่อยให้ตัวคุณเองถูกปล้นความหวังไปเสีย! และไม่เพียงแค่นั้น แต่พ่อขอพูดกับทุกคนว่า  เราอย่าปล้นความหวังของคนอื่นเลย, ให้เราเป็นผู้ถือความหวัง”
“พ่อเชื่อว่า  ที่นี่ โรงพยาบาลแห่งนี้ทำให้อุปมาเรื่องชาวซามาเรียผู้อารีเป็นเรื่องจับต้องได้. ที่นี่ ไม่มีความเมินเฉยต่อกัน แต่เป็นห่วงเป็นใยกัน. ไม่มีความเมินเฉยแต่มีความรัก "

ในที่สุด สมเด็จพระสันตะปาปาทรงขอบพระทัยผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และผู้ร่วมงานของโรงพยาบาล: "การบริการรับใช้ของพวกคุณมีค่า; จงทำด้วยความรักเสมอ. เป็นการบริการรับใช้ที่ถวายแด่พระคริสตเจ้า ที่ประทับในพี่น้องชายหญิงของเรา. ดังที่พระเยซูเจ้าตรัสกับเราว่า:  "ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้องที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ.25.40)

นอกจากนี้ พระองค์ยังย้ำเน้นกับทุกคนที่ “ต่อสู้กับการติดยาเสพติด, และกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาที่ร่วมทุกข์ของพวกคุณ” ว่า  "พระศาสนจักรไม่ได้อยู่ห่างไกลจากความยุ่งยากของพวกคุณเลย แต่ร่วมเดินทางกับคุณด้วยความรักเยี่ยงพี่น้อง. องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับใกล้คุณ และทรงสัมผัสคุณด้วยพระหัตถ์. จงมองหาพระองค์ในเวลาที่คุณประสบความยากลำบากมากที่สุด และพระองค์จะทรงปลอบใจคุณและประทานความหวังแก่คุณ.  พร้อมกับความไว้วางใจในความรักเยี่ยงมารดาของพระมารดามารีย์... ที่ใดมีกางเขนที่แบก,ที่นั่น  พระมารดาของเราจะอยู่เคียงข้างเรา”