สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประกาศสละตำแหน่ง


popebenedict    เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพี รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงประกาศว่าพระองค์จะสละตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งมีศาสนิกชนอยู่ทั่วโลกราว 1,100 ล้านคน ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ หรือในรอบเกือบ 600 ปีที่ผ่านมา ที่ประกาศจะสละตำแหน่งผู้นำคริสตจักรแห่งนี้ โดยพระองค์ให้เหตุผลในเรื่องของอายุและร่างกายที่ทำให้พระองค์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ต่อไป ทั้งนี้ หลังการตัดสินพระทัยสละตำแหน่ง ได้มีการกำหนดวันที่จะประชุมราชาคณะสงฆ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิกเพื่อทำการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่กันต่อไปภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้

การประกาศสละตำแหน่งของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 พระชนมายุ 85 พรรษา มีขึ้นในระหว่างการประชุมพระคาร์ดินัล หรือพระในลำดับชั้นสูงสุดของสำนักวาติกัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงค่ำวันเดียวกันตามเวลาในไทย โดยสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงย้ำว่า การปฏิบัติภารกิจในฐานะประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกจะต้องมีความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่หลังจากที่พระองค์ทรงได้พิจารณาด้วยความมีสติรู้ผิดรู้ชอบของพระองค์ต่อพระผู้เป็นเจ้าแล้ว พระองค์แน่ใจว่าพละกำลังของพระองค์ในสังขารที่ล่วงเลยไปนี้ไม่ได้เหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปแล้ว เนื่องจากระยะหลังๆ พระวรกายของพระองค์แย่ลงไปมาก
    ข่าวแจ้งว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงดูอิดโรยลงอย่างมาก และบ่อยครั้งที่พระองค์ต้องอาศัยแท่นเคลื่อนที่ในการเสด็จไปมาภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในระหว่างประกอบศาสนกิจ ขณะที่บทสัมภาษณ์ลงหนังสือในปี ค.ศ. 2010 สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ตรัสเปรยว่าพระองค์อาจจะสละตำแหน่งหากพระองค์รู้สึกว่าไม่สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจหน้าที่ได้อีกต่อไป
    คำประกาศดังกล่าวได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ทั้งศาสนจักรและชาวคริสเตียนทั่วโลกอยู่พอสมควร โดยเฟเดริโก ลอมบาร์ดี โฆษกสำนักวาติกัน กล่าวว่า พระองค์ทรงทำให้เราแปลกใจอยู่บ้าง ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวเคารพในการตัดสินพระทัยของพระองค์ และแสดงความซาบซึ้งในภารกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติในฐานะประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกในช่วงตลอดเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกันประธานาธิบดีฟรองชัวส์ โอลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ที่แสดงความเคารพในการตัดสินพระทัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16
    ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกพระองค์เดียวที่ได้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องเพราะพระองค์รู้สึกว่าไม่สมารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่คือ สมเด็จพระสันตะปาปาเชเลสไตน์ ที่ 5 ในปี ค.ศ. 1296 ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ซึ่งมีพระนามเดิมว่า พระคาร์ดินัลโยเซฟ รัตซิงเกอร์ ได้ขึ้นรับตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกหลังจากสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 เสด็จสวรรคตเมื่อเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2005 หลังทรงรับใช้คริสตจักรโรมันคาทอลิกมานานถึงเกือบ 25 ปี
    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ผู้ที่จะก้าวขึ้นรับตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกคนต่อไป คาดว่าจะมาจากกลุ่มละตินอเมริกา ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกที่ไม่ใช่ประมุขเป็นชาวยุโรป อาทิ พระคาร์ดินัล เคลาดิโอ ฮัมเมส ชาวบราซิล พระคาร์ดินัล ออสก้าร์ อันเดรส โรดริเกส มาราเดียก้า ชาวฮอนดูรัส พระอัครสังฆราช ฮอร์เก้ มาริโอ เบอร์โกกลิโอ จากอาร์เจนตินา และพระคาร์ดินัล นอร์แบร์โต ริเวร่า คาร์เรร่า จากเม็กซิโก ทั้งนี้ สำนักวาติกันแจ้งว่า คาดว่าจะมีการเลือกประมุขฯ องค์ใหม่ในเดือนหน้า หรือภายหลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 สละตำแหน่งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

หนังสือพิมพ์มติชน วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 หน้า  12

พระดำรัสที่พระสันตะปาปาได้แจ้งแก่คณะพระคาร์ดินัล ถึงการสละสมณสมัยของพระองค์