การวางกฎระเบียบกระบวนการสถาปนานักบุญและบุญราศีต้องโปร่งใสมากขึ้น
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้มีมติอนุมัติกฎระเบียบวาติกันใหม่ เพื่อให้สถาปนานักบุญเกิดความโปร่งใสทางการเงินมากขึ้น
ภายใต้กฎระเบียบใหม่ซึ่งได้รับการอนุมัติสำหรับระยะเวลาทดลองสามปี สมณกระทรวงเพื่อการสถาปนานักบุญจะใช้เวลาดำเนินการสหวิชา ในกรณีที่มี "ความล้มเหลวหรือการละเมิดในการบริหารทางการเงินโดยผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเรื่องนี้" .
กฎระเบียบใหม่กำหนดรายละเอียดสำหรับจัดการผลงานที่ได้รับและระบุว่า เจ้าหน้าที่จะมีการเรียกเก็บเงินกับการกำกับดูแลการไหลของเงินสำหรับการสถาปนานักบุญ
ในขณะที่ผู้ร้องขอหรือผู้ส่งเสริมกรณีสถาปนานักบุญ ยังคงสามารถบริหารจัดการเงินทุนสำหรับแต่ละกรณี พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลหรืออัคราธิการของคณะนักบวช หรือผู้มีสิทธิอำนาจของวัดอื่น ที่เริ่มยื่นเรื่อง ต้องทบทวนงบการเงินและอนุมัติงบประมาณสำหรับการสถาปนาแต่ละกรณี.
มีความพยายามทำให้กฎระเบียบง่ายขึ้น เพื่อหาทุนในการสถาปนานักบุญ "ในกรณีที่มีปัญหาที่แท้จริง เรื่องค่าใช้จ่ายของการสถาปนาในขั้นตอนที่โรม, ผู้ส่งเสริมอาจขอให้สมณกระทรวงบริจาคเงินผ่านพระสังฆราชท้องถิ่น”
ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากการรั่วไหลของเอกสารที่คณะกรรมการ การศึกษางานการเงินของสำนักงานวาติกันเขียน ซึ่งสรุปว่า ได้มี "การกำกับดูแลกระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับกระบวนการสถาปนานักบุญ"
Gianluigi Nuzzi นักข่าวอิตาลีหนึ่งในสองคน กล่าวถึงคดีที่วาติกัน ที่เกี่ยวกับการเผยแพร่เอกสารลับ เรื่องความโปร่งใสและความซื่อสัตย์สุจริต
Nuzzi ยังอ้างว่า "เพียงแค่เริ่มกระบวนการการสถาปนาบุญราศี มีค่าใช้จ่าย 50,000 ยูโร เพิ่มอีก 15,000 ยูโรในการเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง" รวมทั้งค่าตอบแทนนักเทววิทยา บุคคลากรทางการแพทย์และพระสังฆราชที่ตรวจสอบเรื่องการสถาปนานักบุญ. ค่าใช้จ่ายที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ต้องจ่ายสำหรับผู้วิจัย ผู้ยื่นเรื่องและการรับรองอัตชีวประวัติที่เสนอความศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญ. Nuzzi อ้างว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการสถาปนานักบุญประมาณ 500,000 ยูโรหรือ 380,000 ปอนด์
ความซับซ้อนของกระบวนการสถาปนานักบุญต้องค่าใช้จ่ายมาก รวมทั้งการสืบสวนในระดับสังฆมณฑล ดำเนินการโดยสมณกระทรวงเพื่อการสถาปนานักบุญของวาติกัน หรือจารีตพิธีสถาปนานักบุญและบุญราศีเอง
นักบุญยอห์น ปอลที่ 2 ในปี 1983 ทรงเรียกร้องการกำกับดูแลเงินทุนโดยทั่วไป และพระองค์ได้ทรงจัดตั้ง "กองทุนสมานฉันท์" ที่สมณกระทรวงดูแล รวบรวมเงินทุน เพื่อช่วยจ่ายสำหรับกรณีการสถาปนาต่างๆ ที่มาจากประเทศคาทอลิกที่ขาดเงินที่จำเป็นในการวิจัยทั้งหมด.
กฎระเบียบใหม่ยืนยันการดำรงอยู่และความสำคัญของกองทุน และกำหนดว่า มันขึ้นอยู่ กับสมณกระทรวง เพื่อตรวจสอบว่า เงินส่วนเกินใดๆจากการสถาปนาให้เสร็จสิ้น จะไปไว้ที่กองทุน หรือเพื่อจะใช้สำหรับเรื่องอื่น
แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE
