แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

คู่มือแนวทางการปฏิบัติตนของคาทอลิกในการร่วมพิธีของศาสนาอื่น

ความเป็นมา

samudsakorn-03การไหว้เจ้า สืบเนื่องจากชาวจีนเชื่อว่าตามธรรมชาติต่างๆ ล้วนแต่มีเทพเจ้าสถิตอยู่ ถ้ามนุษย์ทำให้เทพเจ้าพอใจก็จะประทานสิ่งที่ดีงามให้ แต่ถ้าไม่พอใจก็จะทรงบันดาลให้มีภัยพิบัติต่างๆ ความเชื่อเช่นนี้ในประเทศอื่นก็มีเช่นกัน เหตุเพราะมนุษย์ยังขาดความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติ จึงพากันสร้างเทพเจ้า หรือพระเจ้าขึ้นมาจากความไม่เข้าใจของตน แล้วก็พากันบูชาสิ่งที่ตนสร้างขึ้นมานั้นเอง เทพเจ้าที่ชาวจีนเชื่อถือมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทั้งรูปร่างหน้าตา และอารมณ์ต่างๆ และในบรรดาเทพด้วยกันก็มีองค์หนึ่งเป็นจอมเทพ ชาวจีนเรียกว่า "เทียน" และยังเชื่ออีกว่าจอมเทพองค์นั้นคนจีนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เซ่นสรวงบูชาได้ เว้นแต่พระมหากษัตริย์เท่านั้นที่จะทำได้ ทั้งนี้ก็เพราะจอมเทพทรงปกครองโลกโดยผ่านกษัตริย์ กษัตริย์เท่านั้นที่เป็นตัวแทนของพระองค์ในโลกนี้ เมื่อกษัตริย์เท่านั้นที่สามารถทำการบูชาเซ่นสรวงจอมเทพได้ จึงเป็นเหตุให้เกิดมีราชพิธีการบูชาเซ่นสรวงเทพ พระราชพิธีสังเวยพระอาทิตย์ พระจันทร์ เป็นต้น ต่อมาเมื่อประชาชนไม่สามารถบูชาเซ่นสรวงจอมเทพได้ก็หันมาเซ่นเทพบริวารคอยรับใช้จอมเทพ วิญญาณของบรรพบุรุษจะคอยดูแลญาติในโลกอยู่เสมอ สามารถให้คุณให้โทษได้ จำเป็นที่จะต้องเอาใจใส่อยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ชาวจีนถือสุสานประจำตระกูลเป็นสถานที่สำคัญ ต้องดูแลให้ดีเพื่อเป็นที่เซ่นสรวงและบนบานวิญญาณบรรพบุรษของตน
ดังนั้น "การไหว้เจ้า" จึงเป็นประเพณีที่ชาวจีนปฏิบัติสืบต่อกันมากว่า 3,000 ปี เพื่อให้เกิดความสิริมงคลและนำมาซึ่งความสุขความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเองและครอบครัว รวมทั้งกิจการงานธุรกิจที่ประกอบอยู่ ชาวจีนจึงมีความเชื่อสืบต่อๆ กันมาว่า ในปีหนึ่งๆ มักจะมีสิ่งเลวร้าย เรื่องไม่ดีงาม เรื่องต่างๆ เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย การงานติดขัดไม่ราบรื่น เงินทองไม่คล่อง ทำอะไรก็พบความยุ่งยาก ค้าขายลำบากมีแต่อุปสรรค บุตรบริวารก่อเรื่องวุ่นวาย นำความยุ่งยากลำบากใจมาให้ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผิดปกติ ทำให้รู้ได้ว่า "ดวงชะตาชีวิต" ไม่ดีนัก จึงจะต้องมีการขนขวายหาที่พึ่ง จึงทำให้ก่อการกำเนิดประเพณีการไหว้เจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และไหว้บรรพบุรุษขึ้น

กำหนดการไหว้เจ้า
ภายในหนึ่งปี จะมีการไหว้เจ้า 8 ครั้งเรียกว่า โป๊ยโจ่ย แปลว่า 8 เทศกาลเป็นการกำหนดวันทางจันทรคติของจีน
  1. ไหว้เดือน 1 วันที่ 1 เรียกว่า ง่วงตั้งโจ่ย คือ ตรุษจีน
  2. ไหว้เดือน 1 วันที่ 15 เรียกว่า ง่วงเซียวโจ่ย
  3. ไหว้เดือน 3 วันที่ 4 เรียกว่า ไหว้เช็งเม้ง เป็นประเพณีที่ลูกหลานไปไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ย
  4. ไหว้เดือน 5 วันที่ 5 เรียกว่า ไหว้เหว่ยโจ่ย เป็นเทศกาลไหว้ขนมจ้าง
  5. ไหว้เดือน 7 วันที่ 15 เรียกว่า ตงง้วงโจ่ย คือ ไหว้สารทจีน
  6. ไหว้เดือน 8 วันที่ 15 เรียกว่า ตงชิวโจ่ย คือ ไหว้พระจันทร์
  7. ไหว้เดือน 11 ไม่กำหนดวันแน่นอน เรียกว่า ไหว้ตังโจ่ย
  8. ไหว้เดือน 12 เรียกว่า ไหว้สิ้นปี หรือ ก๊วยนี้โจ่ย คือ ไหว้สิ้นปี

    หรือนอกจากนี้บางบ้านยังมีการไหว้พิเศษ คือ การไหว้เทพยดาที่ตนเองเคารพนับถือ เช่น การไหว้วันเกิดเทพยาดาฟ้าดิน ไหว้วันเกิดเจ้าแม่กวนอิม ไหว้แป๊ะกงแซ 3 ไหว้เทพยดาผืนดิน ไหว้อาพั๊ว และไหว้เจ้าตา
องค์ประกอบในการไหว้เจ้า
cny4การไหว้เจ้าจะมีลักษณะ  และสิ่งที่ใช้ไหว้แตกต่างกันไปตามเทศกาล แต่มีองค์ประกอบทั่วไปดังนี้
1. เวลาไหว้ การไหว้บางอย่างถูกกำหนดไว้ว่าควรไหว้ตอนไหน เช่น เช้าดึก หรือได้ทั้งวัน
2. ผู้ถูกไหว้ คือ องค์ต่างๆ ที่ต้องการไหว้ หรืออาจจะเป็นบรรพบุรุษ หรือเจ้าที่หรือไม่ก็ผีไม่มีญาติ
3. ของสำหรับไหว้ ซึ่งยังแบ่งเป็นของคาว ขนมไหว้ ผลไม้ เครื่องดื่ม สิ่งเหล่านี้ก็ยังมีการกำหนดด้วยว่าของชนิดไหว้ต้องใช้จำนวนเท่าใด ต้องเป็นอะไร
4. กระดาษเงินกระดาษทองใช้สำหรับเผาเซ่นไหว้และส่งไปให้ผู้ล่วงลับ
5. ธูปสำหรับไหว้
6. สถานที่สำหรับการไหว้ ก็มีการกำหนดเช่นกันว่าต้องไหว้ที่ไหน
7. กรรมวิธีในการไหว้ ไม่ว่าจะเป็นไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษหรือไหว้ผีไม่มีญาติ คือจัดตั้งของไหว้ ไหว้ด้วยธูปแล้วทิ้งไว้สักพัก จากนั้นเผากระดาษเงินกระดาษทอง รอจนกระดาษเงินกระดาษทองเผาหมด จึงลาของไหว้แล้วเก็บโต๊ะได้

วัตถุปะสงค์การไหว้เจ้าโดยรวม 3 ข้อ
1. ไหว้เพื่อขอให้เทพเจ้าคุ้มครอง และขอความเป็นสิริมงคล ขอโชคขอลาภ สุขภาพแข็งแรง อายุยืน
2. ไหว้เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้แก่บรรพบุรุษ และขอให้บรรพบุรุษคุ้มครองด้วย ประกอบกิจการรุ่งเรือง
3. ไหว้เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณอื่น (วิญญาณที่ไม่มีญาติอุทิศกุศลไปให้) เพื่อเป็นการสร้างกุศลให้ตนและยังเป็นการขอต่อวิญญาณเหล่านั้นบันดาลให้โชคดี หรืออย่างน้อยไม่มาหลอกหลอนรบกวน

แนวทางปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิก
คริสตชนคาทอลิกเชื้อสายจีนควรพิจารณาดังนี้
  • 1. การไหว้เจ้า เป็นการขอให้เทพเจ้าคุ้มครอง บันดาล หรือเสริมมงคลชีวิตเหล่านี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ดีงามก็ตาม แต่คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะเป็นการขัดต่อความเชื่อ
  • 2. การไหว้บรรพบุรุษ เป็นการระลึกถึงและเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเป็นคุณธรรมชั้นสูงของชาวเอเชีย เป็นการกระทำที่ดี นอกนั้น การระลึกถึงวิญญาณอื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่คริสตชนทำอยู่แล้ว เพียงแต่รูปแบบการปฏิบัติให้เป็นไปตามประเพณีจีน แต่สาระเป็นแบบคาทอลิก คริสตชนจึงสามารถปฏิบัติธรรมเนียมนั้นได้