แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

    วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องการสอนคำสอนในยุคโควิด 19 ซึ่งพวกเราได้เห็นว่า มีหลายอย่างเปลี่ยนไป เรามีการจัดค่ายคำสอนออนไลน์ในหลายวัด มีคำสอนสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การ์ตูนสอนคำสอน เรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถอ่านออนไลน์ได้ เป็นต้น แต่ก่อนอื่นใด ให้มาทำความเข้าใจความหมายเรื่อง “การสอนคำสอน” ก่อน
     ในคู่มือแนะแนวการสอนคําสอนในประเทศไทยในข้อ 30 ได้ให้ความหมายของการสอนคำสอนไว้ว่า "การสอนคําสอน คือ การอบรมเด็กๆ เยาวชน และผู้ใหญ่ ให้เติบโตในความเชื่อ โดยการถ่ายทอดคําสอนและประสบการณ์ชีวิตแห่งความเชื่อสําหรับคริสตชนอย่างเป็นลําดับและเป็นระบบ เพื่อให้ผู้เรียนเติบโตจนบรรลุวุฒิภาวะแห่งความเชื่อ" (เทียบ CT 18) พูดง่ายก็คือ การสอนคำสอน เป็นการถ่ายทอดความเชื่อในทุกมิติทั้งครบ อย่างเป็นลำดับและเป็นระบบ

    คริสตชนไทยส่วนใหญ่ได้รับความเชื่อสืบทอดต่อกันมาจากครอบครัว มีผู้ใหญ่ที่สนใจมาเรียนคำสอนไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเข้ามาเป็นคริสตชน เพราะการแต่งงานกับคู่สมรสที่เป็นคาทอลิก ครอบครัวคาทอลิกส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการให้บุตรหลานได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน คือ ศีลล้างบาป ศีลกำลัง และศีลมหาสนิท เมื่อถึงวัยแต่งงานก็ให้รับศีลสมรส เมื่อถึงวัยชรา โดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้จะสิ้นใจยังมีความต้องการที่จะพบพระสงฆ์ เพื่อรับศีลเจิมผู้ป่วย
    ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การสอนคำสอนส่วนใหญ่จึงเน้นเรื่องของการเตรียมตัวเป็นคริสตชน เพื่อรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มากกว่าการอบรมให้คริสตชนเติบโตในความเชื่อจนถึงขั้นสมบูรณ์ตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า หน้าที่ของการสอนคำสอนนั้น จึงกลายเป็นหน้าที่ของครูคำสอนและพระสงฆ์
    แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน การแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโคโรน่า 2019 ทำให้เด็กๆไม่สามารถมาเรียนคำสอนภาคฤดูร้อนของแต่ละวัด เพื่อเตรียมตัวรับศีลศักดิ์สิทธิ์ได้ จึงมีการสอนคำสอนออนไลน์ มีการจัดค่ายคำสอนภาคฤดูร้อนออนไลน์ในแต่ละวัด เป็นต้น จากเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเลวร้าย ได้จุดประกายให้เราเกิดความตระหนักถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่อาจจะถูกละเลยไป นั่นก็คือ “ครอบครัวคือพระศาสนจักรระดับบ้าน”  ซึ่งเน้นบทบาทของผู้ปกครองที่ว่า “พ่อแม่คือครูคำสอนคนแรกของลูก” (เทียบ LG 11)
    สังคายนาวาติกันที่ 2 ได้ชี้แจงไว้ว่า “บิดามารดา เมื่อให้กําเนิดแก่ลูกแล้ว มีพันธะอันหนักยิ่งที่จะต้องเลี้ยงดูอบรมลูก เพราะเหตุนี้ ต้องถือว่า บิดามารดาเป็นผู้อบรมสําคัญคนแรกของลูก หน้าที่อบรมของบิดามารดามีความสําคัญอย่างยิ่งยวดจนถึงกับว่า ถ้าขาดการอบรมของบิดามารดาก็ยากที่จะหาการอบรมอื่นใดมาทดแทนได้” (เทียบ FC 36)
    ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงต้องกลับมาทบทวนและเน้นบทบาทของบิดามารดาซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ปลูกฝังและถ่ายทอดความเชื่อในครอบครัว เป็นผู้สร้างบรรยากาศคาทอลิกและเสริมสร้างพระศาสนจักรคาทอลิกระดับบ้าน ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
    ดังนั้น บิดามารดาจึงมีหน้าที่สอนคำสอนให้บุตรด้วยคำสั่งสอนและการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น สอนให้สวดภาวนา จัดบรรยากาศที่บ้านเพื่อให้เหมาะสมกับการสวดภาวนา และการร่วมมิสซาออนไลน์ นำบุตรหลานของตนสวดภาวนาและร่วมมิสซาออนไลน์ด้วยกันในครอบครัว ส่งเสริมให้บุตรหลานของตนได้เรียนคำสอนออนไลน์เมื่ออยู่ที่บ้าน โดยที่บิดามารดาเป็นผู้อยู่เคียงข้างบุตรหลานในการช่วยอธิบายคำสอนข้อต่างๆ ให้บุตรหลานเข้าใจอย่างชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
    ในสถานการณ์ของบริบทดังกล่าวนี้ ศูนย์คริสตศาสนธรรมจึงปรารถนาจะเป็น “ผู้ส่งเสริมและสนับสนุน” ทั้งในด้านเนื้อหา วิธีการ และสื่อการสอนคำสอนหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้บิดามารดาคริสตชนสามารถสอนคำสอนในครอบครัวให้แก่บุตรหลานได้อย่างมั่นใจและง่ายยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ครอบครัวกลายเป็น “พระศาสนจักรระดับบ้าน” ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง