แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การแก้แค้นเป็นของพระเจ้า
เยเรมีห์ 20:10-13
    เมื่อเยเรมีห์ทูลถามพระเจ้าว่า  “ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา  ผู้ทรงทดลองคนชอบธรรม  ผู้ทอดพระเนตรทั้งใจและจิต  ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นการแก้แค้นของพระองค์เหนือเขาทั้งหลาย  เพราะข้าพเจ้าได้ทูลเสนอคดีของข้าพเจ้าแล้ว”  เราจึงเห็นว่า  ตามคำสอนในพระคัมภีร์  ผู้เดียวที่แก้แค้นกันและกัน  การแก้แค้นจะเป็นเหตุให้เกิดการแก้แค้นต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  เช่นเดียวกับความอิจฉาริษยา  ความโกรธที่เป็นสาเหตุของการแก้แค้น  (รม 12:9 ; อฟ 4:26 ; ยก 1:1-20 เป็นต้น)

    การแก้แค้นของมนุษย์ไม่ได้ทำให้เกิดความสุขเลยแม้แต่น้อย จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา  เราเห็นได้ว่าการแก้แค้นเป็นเหตุให้เกิดการแก้แค้นต่อไปเรื่อยๆ  เราเปรียบการแก้แค้นได้กับ  การดื่มน้ำทะเลเพื่อดับกระหาย  ยิ่งกินยิ่งหิว  และถ้ายังขืนกินเข้าไปก็จะต้องตาย
    คำพูดเยเรมีห์ที่ว่า  “ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นการแก้แค้นของพระองค์เหนือเขาทั้งหลาย”  น่าจะหมายถึงว่า   การแก้แค้นของมนุษย์เองนั่นแหละที่จะทำให้มนุษย์ถูกทำลาย  มนุษย์เองนั่นแหละคือสาเหตุของความพินาศของตัวเอง
    ตอนที่มหาสมณะและพวกสะดูสีฟังคำเทศนาของอัครสาวกแล้วโกรธมากจนอยากจะฆ่าเสีย  แต่กามาลิเอล  อาจารย์ทางด้านกฎหมายของพวกฟาริสี  ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนกล่าวเตือนพวกเขาไว้อย่างน่าสนใจว่า “จงเลิกสนใจคนเหล่านี้และปล่อยเขาไปเถิด  เพราะถ้าแผนการและกิจการของเขามาจากมนุษย์  แผนการและกิจการนั้นก็จะสลายไปเอง  แต่ถ้ามาจากพระเจ้าท่านทั้งหลายจะทำลายเขาไม่ได้” (กจ.5:38-39)  สิ่งที่เกิดจากพระเจ้า  คืออะไร  ตามคำสอนเรารู้ว่าสิ่งนั้นคือ  ความรัก  มนุษย์ไม่สามารถจะทำลายสิ่งนี้ที่เกิดจากพระเจ้าได้  ตรงข้ามสิ่งที่เกิดจากมนุษย์คือ  การแก้แค้น  ความโกรธ  ความอิจฉาริษยา  เหล่านี้เป็นต้น จะสลายไปเอง
    สิ่งเกิดจากความรักเท่านั้นจะคงอยู่ตลอดนิรันดร  เปาโลซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งกามาลิเอล  คงจะได้รับอิทธิพลจากอาจารย์ของตนไม่มากก็น้อย  เพราะเปาโลเอง  ก็สอนว่า  “ความรักไม่มีสิ้นสุด”  เช่นเดียวกัน